SABUY ลงทุนธุรกิจใหม่ “MLM กัญชงกัญชา-สมาร์ทล็อคเกอร์”

HoonSmart.com>> “สบาย เทคโนโลยี” ประกาศร่วมลงทุน 2 ธุรกิจสตาร์ทอัพ อนาคตไกล เจาะธุรกิจกัญชงกัญชา แบบ MLM และ ธุรกิจสมาร์ทล็อคเกอร์ ลุยขยายเครือข่ายทั่วประเทศ พร้อมขยายอาณาจักร SABUYVERSE เพิ่มฐานลูกค้าจำนวนมากเข้า Ecosystem เสริมศักยภาพธุรกิจ หนุนเติบโตต่อเนื่อง

ชูเกียรติ รุจนพรพจี

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนใน 2 ธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจการตลาดแบบหลายชั้น (MLM) ผลิตภัณฑ์กัญชงกัญชา เพือสุขภาพ กับบริษัทอินดีม กรุ๊ป จำกัด เนื่องจากธุรกิจกัญชงกัญชา มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ มีโอกาสเติบโตสูง หลังจากรัฐบาลปลดล็อคกัญชาจากยาเสพติดประเภท 5 แล้ว

นอกจากนี้ SABUY จะเข้าลงทุนในธุรกิจ สมาร์ทล็อคเกอร์-ให้บริการเช่าล็อกเกอร์ทั่วประเทศ กับ บริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งธุรกิจนี้ เป็น 1 ในธุรกิจที่มาแรง และ คาดว่าจะเติบโตอย่างสูงทั่วประเทศ โดย SABUY จะสามารถต่อยอดทั้ง 2 ธุรกิจ กับธุรกิจร้าน Drop-off ของ SABUY ซึ่งมีสาขารวมกันกว่า 10,000 สาขา และวางแผนจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง SABUY มั่นใจว่าธุรกิจใหม่ทั้ง 2 ธุรกิจจะเสริมสร้างความแข็งแกร่ง สร้างการเติบโตให้ธุรกิจของกลุ่ม SABUY และ สนับสนุนการขยายตัวของ SABUYVERSE Ecosystem อย่างมั่นคง โดยรายละเอียดของการลงทุนทั้ง 4 บริษัท มีดังนี้

1.อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในบริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด (INDEEM) ในสัดส่วน 30% มูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 49.50 ล้านบาท และเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 60% ด้วยมูลค่าเงินลงทุนจำนวน 3 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทฯ เข้าลงทุนใน INDEEM ซึ่งเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อาทิ อาหารเพื่อสุขภาพที่มีส่วนผสมสารสกัดจาก กัญชง กัญชา และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ในลักษณะแบบเครือข่าย Multi-level Marketing (MLM) หรือ Network Marketing ซึ่งการร่วมลงทุนกันครั้งนี้ ทางบริษัทฯ เล็งเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากธุรกิจของ INDEEM ประกอบไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ การสร้างความผูกพันลูกค้าผ่าน Loyalty Program รวมถึงการใช้ Digital Platform ด้านคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชน (Cryptocurrency and Blockchain) ซึ่งมีความสอดคล้องกับแผนในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ และสามารถสร้างเสริมศักยภาพของสินค้าและบริการ ภายใต้ Ecosystem ของบริษัทฯ ให้มีความเข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

2.อนุมัติให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัท สบาย แอคเซลเลอเรเตอร์ จำกัด (SABUYAC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงทุนในบริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด (Lockbox) รวมมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 48.75 ล้านบาท ในสัดส่วน 20% ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวกับ Smart locker box หลากหลายรูปแบบ บริษัทฯ จึงมีความประสงค์ที่จะเข้าลงทุนใน Lockbox เพื่อขยายช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ และเพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทฯ เข้าถึงสินค้า และบริการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยิ่งขึ้น

บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถใช้จุดแข็งดังกล่าวขยายช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ โดยเฉพาะ First mile / Last mile ในการจัดส่งพัสดุ และ E-Commerce ได้

3.อนุมัติให้บริษัทฯ และ/หรือ SABUYAC เข้าลงทุนใน บริษัท ดิ อะชีฟเวอร์ 59 จำกัด (Achiever59) โดยการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ Achiever59 รวมมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 1.25 ล้านบาท ในสัดส่วน 20% การลงทุนในครั้งนี้ เนื่องจาก Achiever59 เป็นผู้ให้บริการ Smart Locker Box พร้อมทั้ง Application ที่รองรับการใช้งานที่สะดวกสบาย บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถใช้จุดแข็งดังกล่าวขยายช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ โดยเฉพาะ First mile / Last mile ในการจัดส่งพัสดุ และ E-Commerce ได้ อีกทั้ง Achiever59 เป็นผู้นำในนวัตกรรม Smart Locker ในประเทศ จึงเป็นการสร้างโอกาสให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยเฉพาะพื้นในเขตเศรษฐกิจตามแนวรถไฟฟ้า

4.อนุมัติให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัท สบาย แอคเซลเลอเรเตอร์ จำกัด SABUYAC เข้าร่วมทุนกับบริษัท ดิอะชีฟเวอร์ 59 จำกัด Achiever59 ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ (ซึ่งจะกำหนดชื่อภายหลัง) เพื่อลงทุนร่วมกันในธุรกิจการให้บริการ Smart locker box โดยบริษัทฯ หรือ SABUYAC จะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน 50% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทร่วมทุน รวมมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 35 ล้านบาท

การร่วมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถใช้จุดแข็งดังกล่าวขยายช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ โดยเฉพาะ First mile / Last mile ในการจัดส่งพัสดุ และ E-Commerce รวมถึงสร้างโอกาสให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภค การเป็น SMART OFFICE SMART FACTORY SMART HOME ในความร่วมมือกันครั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะช่วยเสริมศักยภาพและต่อยอดระบบ Ecosystem ของบริษัทฯให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น

“นอกจากนั้นแล้ว SABUY ยังได้วางแผนในการลงทุนเรื่องบุคลากรด้วยการเปิด SABUY Campus เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรของ SABUY และพันธมิตร รวมไปถึงยังสามารถใช้ในการเป็นสถาบันเพื่อช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น SABUY ยังมีแผนที่จะพัฒนาทีมงานรุ่นใหม่ๆ ด้วยการแสวงหา และเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่จากสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในและต่างประเทศร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ SABUYVERSE ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแผนยุทธศาสตร์ของปี 2565 และตั้งเป้าการเติบโตของทั้งองค์กรอย่างก้าวกระโดดภายในปีนี้” นายชูเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย

 

อ่านข่าว

SABUY เท 138 ลบ.ซื้อหุ้น 3 บริษัท เพิ่มธุรกิจใหม่ เสริมแกร่งรายได้