ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเกิดคาด หุ้นเอเชียร่วงติดต่อกันหลายวันคาดความต้องการใช้จะลดลง
บริษัทไทยยออยล์รายงาน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังเพิ่มขึ้น 3.1 และ 1.8 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันจะเริ่มชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่งโอคลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 549,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 24.8 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวลงติดต่อกันกว่า 6 วัน หลังตลาดกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะไม่สามารถตกลงยุติความขัดแย้งลงได้ในเร็วนี้ ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอุปสงค์อาจปรับลดลงมากกว่าที่คิด
นักวิเคราะห์คาดว่าปริมาณการผลิตของโอเปกในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน หลังผู้ผลิตได้ตกลงที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมโอเปกในเดือน มิ.ย. ส่งผลให้อุปทานจากโอเปกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นำโดยซาอุฯ อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อุปทานน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านและเวเนซุเอลามีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ในเดือน ส.ค. กำลังการผลิตอิหร่านคาดจะปรับลดลงกว่า 150,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า ประกอบกับ อุบัติเหตุที่ท่าเรือขนส่งน้ำมันในประเทศเวเนซุเอลา ส่งผลกดดันต่อปริมาณการส่งออกของประเทศ
แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 74-79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล