ตลท.เตือนหุ้น “ขุดดิจิทัล” แรงไป JTS-ZIGA-UPA-ECF-AJA

HoonSmart.com>>ถึงรอบไล่หุ้น “ลงทุนขุดเหมืองดิจิทัล” ตลาดฯ เตือนผู้ลงทุน พบแรงเก็งกำไรสูง สำนักงานก.ล.ต.แนะผู้ถือหุ้น JTS ให้ไปโหวตหลังที่ปรึกษาเตือนขุดเหมืองเป็นความเสี่ยงสำคัญ หุ้น ZIGA-ECF-UPA โชว์ซิลลิ่ง ECF-W4 และ UPA-W2 กระโดดไกลกว่า  BROOK ขยับด้วย 6.93% “วงการขุดเหมืองบิทคอยน์”เผยธุรกิจไม่ดีอย่างที่คิดกัน กำไรน้อย ราคาที่คุ้มลงทุน ต้องอยู่ระดับ 5-6 หมื่นเหรียญสหรัฐ  ตอนนี้อยู่ที่ 4.2 หมื่นเหรียญ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบหลักทรัพย์ที่มีสารสนเทศเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) มีสภาพการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูง กล่าวคือ ราคา มูลค่าการซื้อขาย และอัตราการหมุนเวียนเปลี่ยนมือ (%Turnover ratio) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่อง แม้บริษัทจะได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มิได้มีสารสนเทศ หรือพัฒนาการที่สำคัญเพิ่มเติมจากที่เคยแจ้งมาแล้ว

 

ตัวอย่างเช่น หุ้นบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ราคาเพิ่มขึ้น 89% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 1,970 ล้านบาทต่อวัน % Daily Average Turnover Ratio อยู่ที่ 44% หุ้นบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) ราคาเพิ่มขึ้น 27% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 363 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้น JTS ให้ไปใช้สิทธิออกเสียงกรณีเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า โครงการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้

สำหรับการซื้อขายภาคเช้าของวันนี้ (14 ก.พ.2565) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงพบการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้นของราคา มูลค่าการซื้อขายในอีกหลายหลักทรัพย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล ได้แก่ หุ้น ZIGA ราคาขึ้นไปที่ซิลลิ่งและไม่มีเหลือคำเสนอขาย (offer) ที่ตั้งรอ มูลค่าซื้อขาย 1,850 ล้านบาท, หุ้น UPA ราคาเพิ่มขึ้น 23.91% มูลค่าซื้อขาย 1,064 ล้านบาท , หุ้นบริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค ( ECF) ราคาเพิ่มขึ้น 20 % มูลค่าซื้อขาย 783 ล้านบาทและหุ้นบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) ราคาเพิ่มขึ้น 12.90% มูลค่าซื้อขาย 487 ล้านบาท เป็นต้น ในขณะที่ SET และ mai Index ปรับตัวลดลง 0.77% และ 0.94% ตามลำดับ

 

ส่วนราคาปิดของ ZIGA ที่ซิลลิ่ง ระดับ 9.20 บาท เพิ่มขึ้น 4.90 บาทคิดเป็น 176% นับจากสิ้นปีก่อนปิดที่ 4.30 บาท นอกจากเก็งกำไรเรื่องลงทุนธุรกิจขุดเหมืองดิจิทัลแล้ว ยังมีข่าวบวกสนับสนุน  เรื่องนายสมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์ ได้หุ้น ZIGA เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 จำนวน 75,689,800 หุ้น คิดเป็น 12.3485% ของหุ้นทั้งหมด ECF ปิดซิลลิ่งที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.56 บาท โดย ECF-W4 ปรับขึ้นแรงกว่าถึง 53.33% บวก 0.40 บาทปิดที่ 1.15 บาท จนตลาดหลักทรัพย์สั่งให้ติดแคชลานซ์ นักลงทุนต้องวางเงินสดทั้ง 100% ก่อนสั่งซื้อเริ่มวันที่15 ก.พ.-7 มี.ค. 2565 ส่วน UPA ปิดซิลลิ่งที่ 0.59 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท  UPA-W2 ปิดที่ 0.41 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาทคิดเป็น 46.43% ทั้งๆที่เพิ่งเข้ามาซื้อขาย เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ราคาเปิดวันแรกเพียง 0.08 บาท ทั้งนี้ UPA และ UPA-W2 ติดแคชลานซ์ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.-25 มี.ค. 2565

นายวิชญ์ สุวรรณศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย(UPA) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติวันที่ 11 ก.พ.2565 อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สกุลบิทคอยน์เป็นหลัก  บริษัทฯ สามารถพิจารณาปรับเครื่องขุดบางส่วนสกุลอื่น เช่น อีเธอร์  หรือ ไลท์คอยน์ ได้  ในวงเงิน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 817.7 ล้านบาท ใน 2 รูปแบบ คือ 1.บริษัทจัดตั้งบริษัทในลาวร่วมลงทุนกับ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (AIFS) เพื่อ เข้าถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ ฝ่ายละ 50 %  รับภาระค่าใช้จ่ายซื้อไฟ 20 เมกะวัตต์ รองรับเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีได้ถึง 6,000 เครื่อง และการซื้อไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ เพื่อสำรองการขยายโครงการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแผนการ 2.ลงทุนในเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี จำนวนไม่เกิน 2,000 เครื่อง บริษัทลงทุนและรับผลประโยชน์ 60%

นอกจากนี้ หุ้นบรุ๊คเคอร์กรุ๊ป (BROOK) กลับมาเป็นสนใจของนักลงทุนในช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.พ. ไล่ราคาจากต่ำกว่า 1 บาท ขึ้นไปสูงสุดที่ 1.11 บาท ก่อนปิดที่ 1.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาทหรือ 6.93% มูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทแรกๆที่เข้าลงทุนคริปโต โดยมีแผนจะขยายการลงทุน ขออนุมัติงบ ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท สำหรับระะยะเวลา 6 เดือน จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น แต่ม่สามารถหาที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ จึงต้องล้มเลิกการประชถุมผู้ถือหุ้นออกไป

 

แหล่งข่าววงการขุดเหมืองบิทคอยน์ กล่าวว่า มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนทำเหมืองบิทคอยน์รายใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งขุดมา 4-5 ปีแล้ว มีความเห็นว่า การขุดเหมืองขณะนี้ ไม่ดีอย่างที่คิดกัน เพราะกำไรน้อย ปัญหาจากค่าไฟฟ้าของไทย และราคาเหรียญบิทคอยน์ปัจจุบัน 4.2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ/เหรียญ เทียบกับต่างประเทศที่มีค่าไฟฟ้าถูกกว่า โดยเฉพาะจีน

ระดับราคาเหรียญบิทคอยน์ ที่คุ้มกับการลงทุนขุดเหมือง ต้องอยู่ระดับ 5-6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ/บิทคอยน์ ซึ่งบิทคอยน์มีโอกาสขึ้นไป แต่ระยะเวลาผ่านไป จะมีค่าความยาก หรือ DIFF ที่มากขึ้นทุกวัน

“ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า บริษัทจดทะเบียน กำลังนำเกมส์การลงทุนขุดเหมืองบิทคอยน์ มาสร้างเกมส์ราคาหุ้น ซึ่งเกมส์การขุดเหมือง ไม่คุ้มการลงทุน ถ้าค่าไฟฟ้ายังสูง และราคาเหรียญบิทคอยน์ อยู่ระดับ 4.2 หมื่นดอลลาร์/เหรียญบิทคอยน์ รวมไปถึงค่า Diff จะยากขึ้น ๆ”แหล่งข่าวกล่าว