HoonSmart.com>>”วินเนอร์ยี่ เมดิคอล” กางแผนธุรกิจปี 65 เดินหน้าสร้างการเติบโต ชูกลยุทธ์ New S Curve เพิ่มธุรกิจทุกไตรมาส ปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 50 % รักษาอัตรากำไรสุทธิ 9-11%
นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปี 2565 จะเติบโตถึง 50% และสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิ 9-11% ผลจากธุรกิจใหม่ที่จะออกมาทุกไตรมาส และธุรกิจดั้งเดิมที่หายไป 20-30% จะกลับมาเร็ว เห็นได้ชัดเจนจากการเปิดเมืองทำให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นมากในเดือนม.ค.
ในปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน มาร์จิ้นลดลง และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก บริษัทเร่งปรับ เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน มุ่งเน้นสร้างการเติบโตด้วย New S Curve จากโครงสร้าง 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งเดิมดำเนินธุรกิจหลัก 1. การจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสตรี ผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิต ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยของโลหิต ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเซลล์บำบัด ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพเพียงเท่านั้น โดยบริษัทมองเห็นโอกาสจากสภาวะวิกฤตดังกล่าว จึงขยายการให้บริการ 2.กลุ่มธุรกิจให้บริการห้องปฏิบัติการวินิจฉัยทางการแพทย์เข้ามาเพิ่ม ช่วยเสริมศักยภาพการเติบโต
แผนการดำเนินงานในปี 2565 กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสตรี ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก บริษัทมองเป็นโอกาสเนื่องจากยังมีสตรีจำนวน 14-15 ล้านคนยังไม่เคยตรวจ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง เพื่อส่งตรวจหาเชื้อไวรัส HPV (HPV Self-collect) เพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต พร้อมเร่งเปิดให้บริการในไตรมาสแรก ห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self-Collect) คาดว่าในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี จะมียอดขายจำนวน 6 หมื่นชุด ขายในราคาชุดละ 1,500 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 90 ล้านบาท
กลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิต และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางโลหิต มีแนวโน้มดี จากการกระจายฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ช่วยสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้บริการมากขึ้น อีกทั้งมีการปรับกลยุทธ์ เพิ่มบริการหน่วยบริการเคลื่อนที่ สร้างรายได้ทดแทนจากผลกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตอบรับแนวคิดวิถีชีวิตใหม่
ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเซลล์บำบัด มีแนวโน้มที่ดี ผลจากการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในโครงการวิจัยที่ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัท มีผลการรักษาที่ดี แม้จะอยู่ในมะเร็งระยะที่ 4 จึงทำให้มีผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการรักษาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีโครงการรักษามะเร็งประเภทอื่น ส่งผลให้ความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นแผนการลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์-ภูมิคุ้มกันบำบัด (Cell Therapy) คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 พร้อมสร้างความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำ เพิ่มการเข้าถึงทางเลือกในการรักษามะเร็งด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ กลุ่มตรวจคัดกรองและยืนยันผล เชื้อไวรัสโควิด-19 และการรักษาครบวงจร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และสำหรับตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ทางโพรงจมูกและน้ำลายที่มีความแม่นยำสูง อีกทั้งเตรียมจัดหาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ที่มีคุณภาพสูงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น พร้อมต่อยอดธุรกิจให้บริการห้องปฏิบัติการวินิจฉัยทางการแพทย์ บริษัทเปิดให้บริการ “WINMED LAB” ห้องปฏิบัติการมาตรฐานการตรวจยืนยันระดับโมเลกุลหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอน โดยระบบ RT-PCR และ TMA (Transcription Mediated Amplification) ซึ่งเป็นคลินิกเทคนิคการแพทย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการแบบสองระบบ นอกจากนั้นยังให้บริการตรวจแบบ fast track สามารถรู้ผลตรวจรวดเร็วภายใน 3 ชม. และหน่วยบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 นอกสถานที่ โดยเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2564 อีกทั้งเตรียมขยายบริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ระบบ Drive Thru โดยบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาเพิ่ม สามารถให้บริการได้ช่วงไตรมาส 1/2565
“ทุกวิกฤตยังคงมีโอกาส โดยเฉพาะ WINMED ไม่ได้ทำธุรกิจฉาบฉวย มีประวัติศาสตร์ ธุรกิจดั้งเดิมอยู่ในตลาดถึง 30 ปี มี New S Curve ตอบโจทย์สุขภาพของสังคมไทย มองขาดเรื่องความต้องกร ยังคงสามารถดำเนินกิจการบนโครงสร้างธุรกิจที่รองรับความเปลี่ยนแปลงได้ในทุกสถานการณ์ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการตรวจและคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ความมั่นใจใช้บริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกลับมามากขึ้น จะส่งผลดีต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ ของบริษัท จึงมั่นใจว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จะสามารถสร้างการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันมีงานในมือประมาณ 111 ล้านบาท ทยอยรับรู้บางส่วนในปีนี้ และมีสินค้าใหม่ โครงการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีรายได้จากภาครัฐ 65% เอกชนสัดส่วน 35% ” ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นายนันทิยะ กล่าว