HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นเช้านี้พุ่ง 11.05 จุด ตามตลาดต่างประเทศ จาก Bond yield ปรับตัวลงหลังคลายกังวลการขึ้นดอกเบี้ยเฟด ส่งกลุ่มเทคโนโลยีขึ้นแรง เล็งหนุนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และราคาน้ำมันทำนิวไฮในรอบ 7 ปี หนุนกลุ่มพลังงาน รวมถึงผู้ติดเชื้อโควิดคลายตัวลงหนุนกลุ่มเปิดเมือง แต่งบฯอาจทำให้ตลาดผันผวนบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,643 แนวต้าน 1,655-1,660 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 ก.พ. 2565 ปรับตัวขึ้น ณ เวลา 10.03 น. อยู่ที่ระดับ 1,659.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.05 จุด หรือ +0.67% มูลค่าซื้อขาย 4,939.46 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นแรง และตลาดในยุโรปก็รีบาวด์ ตลาดในเอเชียก็บวกได้แม้หลายตลาดจะปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน รับผลจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวลง หลังคลายความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งตลาดได้รับรู้ไปมากแล้ว ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อที่กลับเข้ามา และน่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์ด้วย
นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ปรับขึ้นมาเหนือระดับ 90 เหรียญ/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 7 ปี น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ผ่อนคลายลงทำให้หนุนหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง (Reopening)
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอยู่ ช่วงนี้ตลาดคงจะผันผวนบ้างตามงบฯที่เป็นตัวแปร และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.พ. และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ก.พ.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,643 จุด แนวต้าน 1,655-1,660 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KCE อยู่ที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +4.18% มูลค่าซื้อขาย 346.57 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.67% มูลค่าซื้อขาย 305.52 ล้านบาท
GULF อยู่ที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +2.04% มูลค่าซื้อขาย 231.61 ล้านบาท
EA อยู่ที่ 91.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ +1.96% มูลค่าซื้อขาย 229.17 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.65% มูลค่าซื้อขาย 220.47 ล้านบาท