HoonSmart.com>>“ทรีนีตี้” แนะปีนี้กระจายพอร์ตลงทุนทอง 5% สู้เงินเฟ้อสูง รักษาผลตอบแทน “คลาสสิก โกลด์” คาดระยะสั้นขึ้น ส่วนระยะยาว รอดอกเบี้ย-เงินเฟ้อสหรัฐฯ ชี้ทิศทางราคา แอปพลิเคชันออมทอง “SAVVYGOLD” ฮอต เน้นซื้อทองทุกเดือนเฉลี่ยต้นทุนแบบ DCA ชวนคนออมทองเพิ่ม
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ แนะนำการลงทุนว่าในสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเร่งตัวของเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก ควรมีทองคำอยู่ในพอร์ตด้วย เพิ่มสัดส่วนเป็น 5% เพื่อกระจายความเสี่ยง สร้างโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดี เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีทิศทางไปคนละทางกับสินทรัพย์หลักๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ และ Crypto Currency หรือสินทรัพย์อื่นๆ
นอกจากนี้ ราคาทองคำในระยะยาวยังสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ รวมถึงในยามที่เกิดวิกฤติทองคำก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่วางใจได้มากกว่าสินทรัพย์อื่นๆ อีกด้วย
นางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล กรรมการและผู้บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ กล่าวว่า การลงทุนทองคำช่วยป้องกันผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในภาวะเศรษฐกิจหดตัว สามารถเก็งไรในการลงทุนระยะสั้นได้อีกด้วย ปัจจุบันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น โดยมีสาเหตุมาจากแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีมากขึ้นและเปลี่ยนมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนแนวโน้มราคาในระยะยาวจะต้องเฝ้าดูการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์และขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐ
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส กล่าวว่า การลงทุนหรือการเก็บสะสมทองคำ รูปแบบที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ คือ การซื้อเก็บสะสมในรูปแบบ digital gold ลูกค้าซื้อขายทองคำแท่ง ทำธุรกรรมแบบออนไลน์และมีทองคำที่ลูกค้าเป็นเจ้าของเก็บในตู้นิรภัยซึ่งดูแลโดยบุคคลที่สาม โดยขอให้จัดส่งไปที่บ้านหรือเลือกที่จะรับเป็นทองรูปพรรณหรือทองคำแท่งจากร้านทองพันธมิตรใกล้บ้านในอนาคต
นอกจากนี้ การลงทุนในรูปแบบ digital gold ยังมีความปลอดภัย ต้นทุนการเก็บรักษาและมีประภัยสำหรับการสูญหาย เมื่อลูกค้าต้องการขายเปลี่ยนเป็นเงินสด ยังสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ลูกค้าสามารถซื้อทองคำในจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยและเก็บสะสมจนถึงปริมาณทองคำที่ต้องการ
นายสัตวแพทย์ ธนัฐ ศิริวรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล แอสเซ็ท แมเนจเมนต์ ( DAM ) ซึ่งมีบล.ทรีนีตี้ถือหุ้น 18.03% เปิดเผยว่า แอปพลิเคชัน “SAVVY” แพลตฟอร์มในการบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าส่วนบุคคลในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ผ่านออนไลน์ โดยมีผลิตภัณฑ์แรก คือ ทองคำ (SAVVYGOLD) ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ย. 2564 ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี มีผู้ดาวน์โหลดมากกว่า 1,000 ราย โดยยังคงมีความต้องการออมทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ลงทุนแบบ DCA หรือการซื้อทองคำแบบเฉลี่ยราคา บางคนซื้อทองเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง รวมทั้งยังมีนักลงทุนที่ซื้อแบบรายครั้ง
“เราต้องการให้คนไทยมีเงินออมมากขึ้น ผ่านทองคำ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งได้ SAVVYGOLD มาช่วยก็จะทำให้การออมทองทำได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปซื้อทองที่ร้าน ที่สำคัญเริ่มต้นเพียงมีเงินแค่ 50 บาทเท่านั้น ค่อยๆ สะสมความมั่งคั่ง ในระยะยาวได้ จะขายคืนก็สะดวก เพราะทำผ่าน Application ได้เลย โดยนักลงทุนจะไปรับทองคำที่ร้านขายทองที่สาขาใกล้บ้าน หรือจะให้จัดส่งทองคำถึงบ้านก็ทำได้ โดยมีการประกันการจัดส่ง เพื่อการันตีว่าทองคำจะไปส่งถึงบ้านของลูกค้าจริงๆ”