HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 7.39 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนมี.ค.นี้ ตลาดเผชิญแรงขายทำกำไรหลังไม่ผ่านด่าน 1,680 จุด รับแรงกดดันจาก Growth Stock และกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,044 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,544 ล้านบาท แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดแกว่งออกด้านข้าง เล็งเก็งงบฯ กลุ่มแบงก์ ให้แนวรับ 1,665 แนวต้าน 1,680 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 14 ม.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,672.63 จุด ลดลง 7.39 จุด หรือ -0.44% มูลค่าซื้อขาย 90,986.73 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,680.02 จุด ต่ำสุด 1,670.70 จุด
นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,043.80 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,059.58 ล้านบาท ด้านบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,558.88 ล้านบาทและนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,544.51 ล้านบาท
นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันตามตลาดสหรัฐ จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ โดยตลาดหุ้นเผชิญแรงขายทำกำไรหลังไม่ผ่าน 1,680 จุด โดยได้รับแรงกดดันจาก Growth Stock และหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่ลงตามดัชนี Nasdaq
อย่างไรก็ดี ผลดำเนินงานของ TISCO งวดไตรมาส 4/64 ประกาศออกมาดีกว่าคาด ทำให้เป็นสัญญาณที่ดีต่อกลุ่มธนาคาร ซึ่งราคาหุ้นย่อตัวลงก็สามารถซื้อสะสมได้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 17 ม.ค.2565 คาดว่า ดัชนีจะแกว่งออกด้านข้าง โดยอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคารตามงบฯที่จะออกมา โดยให้แนวรับ 1,665 จุด แนวต้าน 1,680 จุด พร้อมให้ติดตาม GDP งวดไตรมาส 4/64 ของจีน และติดตามตัวเลขนำเข้า และส่งออกของไทยในช่วงปลายสัปดาห์หน้า
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
GULF ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +2.55% มูลค่าซื้อขาย 4,846.72 ล้านบาท
SCGP ปิดที่ 63.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -3.07% มูลค่าซื้อขาย 2,492.37 ล้านบาท
CGH ปิดที่ 2.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ +0.50% มูลค่าซื้อขาย 2,072.45 ล้านบาท
EA ปิดที่ 93.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ -2.86% มูลค่าซื้อขาย 1,984.67 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 145.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,816.49 ล้านบาท