ดาวโจนส์ปิดบวก 183 จุด ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 183 จุด หลังถ้อยแถลงประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย มองโอมิครอนกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชั่วคราว บอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 3% WTI ยืนเหนือ 81 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยีหนาแน่น ด้านตลาดหุ้นยุโรปรีบาวด์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11 มกราคม 2565 ปิดที่ 36,252.02 จุด เพิ่มขึ้น 183.15 จุด หรือ 0.51% หลังถ้อยแถลงประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับรุนแรงกว่าที่ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้า ทั้งระบุการใช้มาตรการที่เข้มงวดจะไม่ส่งผลต่อการจ้างงาน ด้านผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 1.734 %

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,713.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.78 จุด, +0.92%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,153.45 จุด เพิ่มขึ้น 210.62 จุด, +1.41%

ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุน หลังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ชี้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานจะเข้าสู่ภาวะปกติและแรงกดดันเงินเฟ้อจะลดลง แต่เฟดพร้อมจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์ โดยนโยบายการเงินจะไม่ส่งผลลบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจและไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐจะไม่ทำให้เศรษฐกิจเสี่ยงจะหดตัว

ขณะที่การระบาด Omicron นั้นคาดกระทบเพียงชั่วคราว ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ +1.21% กลุ่มพลังงาน +3.41% หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นเหนือระดับ 81 ดอลลาร์/บาร์เรล

นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) แถลงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาคองเกรสวานนี้ว่า Fed มีแผนดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวในปีนี้ ผ่านการปรับลงวงเงิน QE (QE Tarping), ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงมีแผนจะปรับลดขนาดงบดุล (Balance Sheet Runoff) ในปีนี้ด้วย ซึ่งคำแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับรายงาน (Fed Minute) เดือน ธ.ค. 2564 ที่เผยแพร่ไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดความกังวลว่าการเดินนโยบายการเงินตึงตัวจะเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกผ่อนคลาย

ค่ำวันนี้ติดตามรายงาน Core CPI สหรัฐ ธ.ค. คาด +5.4% & พ.ย.+4.9% YoY ขณะที่ World Bank คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้อยู่ที่ +4.1% ลดลงจากเดิมคาดที่ 4.3% จากผลกระทบ Covid-19 และปัญหาห่วงโซ่อุปทานการผลิต

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.9% หลัง -8% ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา จาก Bond Yield สหรัฐและยุโรปปรับสูงขึ้น

ขณะที่ความเห็นจากหัวหน้านักเศรษฐกิจศาสตร์ ECB ชี้ยังไม่เห็นสัญญาณเงินเฟ้อยูโรโซนสูงกว่า 2% ในระยะกลาง ดัชนี Stoxx600ได้แรงหนุนจากผลประกอบการ Q4/64 โดย Refinitiv คาด +49.30%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.08 จุด เพิ่มขึ้น 4.04 จุด, +0.84%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,491.37 จุด เพิ่มขึ้น 46.12 จุด, 0.62%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,183.38 จุด เพิ่มขึ้น 67.61 จุด, 0.95%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,941.81 จุด เพิ่มขึ้น 173.54 จุด, 1.10%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือ 3.68% ปิดที่ 81.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือ 3.44% ปิดที่ 83.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล