‘กองทุนน้ำมัน” แชมป์ผลตอบแทนปี 64 พุ่งเกือบ 66% ย้อนหลัง 10 ปียังติดลบ

HoonSmart.com>> “มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช” เปิดผลตอบแทนกองทุนรวมปี 64 “กองทุนน้ำมัน” สูงสุดเฉลี่ย 65.9% รับราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งตลอดปี ชี้ลงทุนน้ำมันผันผวนสูง ย้อนหลัง 10 ปียังติดลบเฉลี่ย 8.6% ต่อปี ด้านกองทุนหุ้นไทยฟื้นตัว “หุ้นขนาดกลาง-เล็ก” โดดเด่น หนุนผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปี อยู่ที่ 7.2% ต่อปี เหนือ “หุ้นขนาดใหญ่” อยู่ที่ 6.3%

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในรอบปี 2564 กลุ่มกองทุนน้ำมันมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 65.9% หรือสูงสุดในอุตสาหกรรมกองทุนรวม เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เป็นการปรับตัวขึ้นตลอดทั้งปี และเฉลี่ย 0.8% ในไตรมาสุดท้าย อย่างไรก็ดีเนื่องจากการลงทุนสินทรัพย์ประเภทนี้มีความผันผวนสูงในแต่ละรอบปี เช่นในปี 2563 เฉลี่ยที่ -35.2% และปีก่อนหน้าสูงถึงเกือบ 25% โดยในช่วง 10 ปีย้อนหลังเคยเฉลี่ยติดลบมากที่สุดในปี 2557 ที่ -43.3% ทำให้ในภาพระยะยาวอย่างรอบเฉลี่ย 10 ปีเฉลี่ยที่ -8.6% ต่อปี

ด้านผลตอบแทนกองทุนหุ้นไทยฟื้นตัวจากปี 2563

จากที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในปีที่ผ่านมา กองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยจึงมีผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามไปด้วย นำโดยกองทุนกลุ่ม Equity Small/Mid-Cap มีผลตอบแทนเฉลี่ย 27.4% ซึ่งหุ้นขนาดกลาง-เล็กมีการปรับตัวได้สูงกว่าตลาดหุ้นโดยรวม ส่งผลให้ในรอบ 10 ปีเฉลี่ยที่ 7.2% ต่อปี ด้านกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ Equity Large-Cap ที่แม้จะไม่อยู่ใน 10 อันดับแรก แต่ยังถือว่ามีผลตอบแทนที่ฟื้นตัวโดยเฉลี่ย 16.1% เทียบกับปี 2563 ที่ -11.0% ในภาพระยะ 10 ปีให้ผลตอบแทนที่ 6.3% ต่ำกว่ากลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กอยู่ไม่มากนัก กลุ่ม Aggressive Allocation เป็นกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย ส่งผลให้มีผลตอบแทนที่ฟื้นตัวขึ้นในปีนี้เช่นกันที่ 18.1% โดยมีกองทุน TISCO Flexible Plus ให้ผลตอบแทนสูงสุดในรอบปีถึง 45%

กองทุนอินเดียผลตอบแทนเฉลี่ย 26.2%

กลุ่มกองทุนหุ้นอินเดียมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบไปเล็กน้อยในไตรมาสสุดท้ายที่ -2.3% แต่ในภาพของทั้งปีแสดงให้เห็นว่าการระบาดของโควิด-19 ในอินเดียไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นมากนัก จากที่อินเดียมีการเร่งฉีดวัคซีน รวมทั้งในแง่ของศักยภาพการเติบโตของอินเดียเองเช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือโครงสร้างประชากรที่มีผลต่อการเติบโต โดยมีกองทุนหุ้นอินเดียมีผลตอบแทนเฉลี่ยปี 2564 ที่ 26.2% กองทุนบัวหลวงภารตะ จากบลจ.บัวหลวงเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสร้างผลตอบแทนสูงสุดของกลุ่มที่ 44.2%

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงในรอบ 3-5 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีผลตอบแทนสูงต่อเนื่อง โดยในปี 2564 เฉลี่ยที่ 21.0% จากน้ำหนักในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มี performance ที่สูง รวมทั้งตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ได้มีการออกมาตรการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดจำนวนมหาศาล ทำให้กองทุนกลุ่มนี้มีผลตอบแทนสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบ 3 ปี (เป็นรองจากกองทุนกลุ่มเทคโนโลยี) และอันดับ 1 ในรอบ 5 ปี กองทุน TISCO US Equity Unhedged เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในรอบปีที่ผ่านมาที่ 41.2%

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับทั่วโลก ซึ่งเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่ต่างกัน ทำให้การลงทุนในหุ้นไทยโดยรวม underperform การลงทุนต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงจากการลงทุนในแต่ละตลาดหรือสินทรัพย์ได้อย่างเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้