ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 392 จุด วิตกเฟดลดขนาดงบดุล-ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงแรง 392 จุด หลังรายงานประชุมเฟดเดือนธ.ค. ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้านบอนด์ยีลด์พุ่งแตะ 1.7% นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนีแนสแด็กร่วงกว่า 3.3% ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 5 มกราคม 2565 ปิดที่ 36,407.11 จุด ลดลง 392.54 จุด หรือ 1.07% เป็นการลดลงครั้งแรกของปี 2022 จากความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง(เฟด)

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,700.58 จุด ลดลง 92.96 จุด, -1.94%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,100.17 จุด ลดลง 522.54 จุด, -3.34%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น หลังเฟดเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนธันวาคมแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินได้หารือเกี่ยวกับการลดขนาดงบดุลไม่นานนักหลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

เฟดกำลังลดการซื้อพันธบัตรและได้ส่งสัญญานกับตลาดแล้วว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากยุติโครงการ แต่ตลาดกำลังจับสัญญานต่อไปของเฟดว่าจะทำอะไรกับงบดุลขนาด 9 ล้านล้านดอลาร์ รายงานการประชุมแสดงให้เห็นว่ากรรมการ นโยบายการเงินจะพิจารณาลดขนาดงบดุลพร้อมๆกับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อเป็นการยุตินโยบายสนับสนุน

รายงานระบุว่า” กรรมการแทบทุกคนเห็นพ้องว่าเป็นการเหมาะสมที่จะลดขนาดงบดุลในเวลาใดเวลาหนึ่ง หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย fed fund rate”

เจย์ แฮทฟิลด์ ซีอีโอจาก Infrastructure Capital Management ให้ความเห็นว่า การลดขนาดงบดุลคือ “ความเสี่ยงหลักของปี”

“หากเฟดเริ่มลดขนาดงบดุล ก็จะเกิดหายนะ” แฮทฟิลด์กล่าว “ผมมองว่า เฟดจะคงขนาดงบดุล แต่หากเงินเฟ้อยังคงร้อนแรง เฟดก็จะเริ่มลดขนาดงบดุล” และหากเกิดขึ้นจริง”ไม่เพียงแต่เฟดไม่อัดฉัดเงินเข้าระบบเท่านั้น แต่ดึงสภาพคล่องออกจากระบบบด้วย” “ซี่งหากเกิดขึ้นจริง นักลงุทนก็ไม่อยากจะอยู่ในตลาดที่เฟดดึงสภาพคล่องออก”

นอกจากนี้เฟดยังส่งสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก

รายงานการประชุมระบุว่า “กรรมการส่วนใหญ่ซึ่งได้ให้มุมมองส่วนตัวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเห็นว่า ตลาดแรงงาน เงินเฟ้อ อาจจะเป็นปัจจัยให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย fed fund rate ให้เร็วขึ้น หรือในอัตราที่เร็วกว่าที่กรรมการได้คาดการณ์ไว้”

หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ร่วงลง โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ หุ้นอัลฟาเบ็ทต่างลดลง 4% หุ้นเมต้าแพลตฟอร์ม หุ้นไมโครซอฟต์ ต่างลดลงกว่า 3% และหุ้นแอปเปิลลดลง 2.7%

หุ้นเซลส์ฟอร์ซ ลดลง 8.2% หุ้น Adobe Systems ลดลง 7.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของธนาคารยูบีเอสปรับลดคำแนะนำการลงทุนของทั้งสองบริษัท

หุ้นผู้ผลิตชิป ทั้งAMD และหุ้นNvidia ต่างลดลง 5%

แฮทฟิลด์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมานักลงทุนสลับกลุ่มออกจากกลุ่มเทคโนโลยี หุ้น high-growth และหุ้นที่กำลังวิ่งขาขึ้น(momentum) ไปยังหุ้น value หุ้นวัฎจักรและหุ้นที่ให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผล “นั่นเป็นผลจากสภาพคล่อง ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ย และก็เป็นเพราะสภาพคล่องที่นักลงทุนหันไปหาหุ้น momentum เพราะเฟดทำให้หุ้นและพันธบัตรปรับตัวขึ้น หากเฟดดึงสภาพคล่องออก นักลงทุนก็จะหันไปหาหุ้นที่มีราคาถูกที่สุด ซึ่งเสี่ยงน้อยสุด

เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Oanda กล่าวว่า ในครึ่งแรกของปี ประเด็นหลักคือแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจและจะมีผลต่อกลุ่มวัฎจักร แต่กลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลงนั้น ไม่สมเหตุสมผลเพราะเฟดยังไม่เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการ

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ รายงานการจ้างงานของภาคเอกชนเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 807,000 ตำแหน่ง สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 และสูงกว่า 375,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด

ไอเอชเอส มาร์กิต รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธันวาคมลดมาที่ระดับ 57.6 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

นักลงทุนจับตาการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธันวาคมในวันศุกร์นี้ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 422,000 ตำแหน่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 2.4% นักลงทุนจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้นมาที่ 1.71% ก่อนที่จะปิดที่ 1.6631% และขณะที่รอการเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนธันวาคมของคณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

ไอเอชเอส มาร์กิต รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมเดือนธันวาคมลดมาที่ระดับ 53.5 จาก 55.4 ในเดือนก่อนหน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 494.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด, +0.07%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,516.87 จุด เพิ่มขึ้น 11.72 จุด, +0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,376.37 จุด เพิ่มขึ้น 58.96 จุด, +0.81%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,271.75 จุด เพิ่มขึ้น 119.14 จุด, +0.74%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 77.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 80.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล