HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นไทยแข็งแกร่ง แม้ในปี 2564 เผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 และ 4 แต่ยังให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ให้กำไรสูงถึง 73.10% ส่วนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ให้กำไร 14.37% โดยดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดของปีที่ 1,657.62 จุด เพราะได้แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง 8 วันทำการรวม 23,026.63 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นแรงส่งต่อไปในปี 2565
บริษัทในตลาด mai โดดเด่นมาก หนุนดัชนีปิดที่ 336.29 จุดและหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่เข้ามาซื้อขายในปี2564 ทั้งหมด 18 บริษัท ก็แจกกำไรทุกบริษัท ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) พุ่งขึ้น 100.82% เป็น 471,981.87 ล้านบาท นักลงทุนยอมซื้อหุ้นในราคาสูง พิจารณาจากสัดส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ถึง 58 เท่า และสัดส่วนราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(P/BV) 3.42 เท่า เทียบกับใน SET ที่ P/BV เพียง 1.79 เท่า โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ที่ให้ราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี ซึ่งคาดว่านักลงทุนไทยและต่างประเทศให้ความสนใจลงทุนในกลุ่มแบงก์ในปีหน้า เพราะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และภาวะอัตราดอกเบี้ยโลกสูงขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นวันสุดท้ายของปี (30 ธ.ค.2564) ดัชนีปิดบวก 4.29 จุด หรือ+0.26% มูลค่าการซื้อขาย 74,535.61 ล้านบาท แรงซื้อจากต่างชาติจำนวน 3,563 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนไทยขายต่อ 2,554 ล้านบาท และสถาบันไทยขายด้วย 1,201 ล้านบาท โดยมีการสลับมาขายหุ้นแบงก์ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาหลายวัน เข้ากลุ่มสื่อสารที่จะได้รับผลดีจากการแข่งขันที่รุนแรงหลัง TRUE ควบรวมกับ DTAC สำเร็จในปี 2565 รวมถึงหุ้นที่มีการปรับโมเดลธุรกิจ เพิ่มแหล่งที่มาของรายได้และกำไร รับมือความผันผวนที่จะเผชิญในอนาคตได้ทุกสถานการณ์