“คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้มหุ้นเคลื่อนไหวกรอบ 1,640- 1,660 จุด

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองตลาดหุ้นวันสุดท้ายของปี คาดดัชนีเคลื่อนไหวกรอบ 1,640- 1,660 จุด รอประเมินโอมิครอนหลังปีใหม่ หุ้นแนะนำวันนี้ TACC-WHA

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,640- 1,660 จุด รอประเมินความเสี่ยงการระบาด Omicron หลังปีใหม่แนะนำทยอยซื้อ KBANK, SCB, BBL, KTB, TTB/ PTT, PTTEP, TOP, SPRC, SCC/ ADVANC, INTUCH/ AMATA, WHA

สำหรับดัชนี SET วานนี้ +0.72% ปริมาณการซื้อขาย 7.25 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อ 6.1 พันล้านบาท สถาบันซื้อ 574 ล้านบาท พอร์ตโบรกขาย 1.37 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากกลุ่มไฟแนนท์ +1.87%, บรรจุภัณฑ์ +1.56%, สื่อโฆษณา +1.48%, อาหาร +1.36% และธนาคาร +1.33% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Cyclical คาดจะฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ กอปรกับมีแรงซื้อจากกองทุน SSF, RMF ในช่วงท้ายปี รวมถึงการทำ Window Dressing หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคา Underperform ดัชนี เช่น SCC, MAKRO, CPALL, CPF

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อ Omicron ในไทยรวมอยู่ 740 ราย โดย 2/3 เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ และ 1/3 ติดภายในประเทศ และพบการระบาดใน 33 จังหวัด โดยรัฐบาลแนะนำให้ WFH หลังปีใหม่ ก่อนเข้าทำงานตามปกติเพื่อช่วยลดการระบาด

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.35 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 เติบโตขึ้นต่อเนื่อง QoQ. YoY ตามการบริโภคที่ฟื้นตัวหลังรัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้คนเข้า 7-11 มากขึ้น โดยบริษัทออกเครื่องดื่มโถกดรสชาติใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี และเตรียมวางขายสินค้าใหม่น้ำดื่มอัลคาไลน์ในช่วง ธ.ค.ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นยังสามารถบริหารจัดการได้ไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น

ทั้งนี้ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ในปี 65 โต 10-15%YoY หนุนจากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลาย การขยายสาขาของ 7-11 ในต่างประเทศ และการขยายช่องทางการขายนอกร้าน 7-11 ส่วนผลิตภัณฑ์กัญชงคาดชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2Q65

หุ้น WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.15 บาท) ประเมินการดำเนินงานในช่วงไตรมาส4นี้ฟื้นตัวดี โดยคาดว่าการเจรจากับลูกค้าต่างชาติในแง่ของการขายที่สามารถกลับมาดำเนินได้ต่อเนื่อง (เป้าในปีนีที่ 820 ไร่) โดยเฉพาะช่วง Q4 เป็น High season อยู่แล้วและจะมีแรงหนุนจากการขายสินทรัพย์เข้า WHART (สินทรัพย์ที่จะขายเข้าในปีนี้ มูลค่า 5,550 ล้านบาท)

ด้านธุรกิจ Utility คาดว่า Q4 กลับสู่ปกติหลักจากที่ก่อนหน้านี้ โรงไฟฟ้า Gheco-one มีการปิดซ่อมบำรุง ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี 64 และ ปี65 จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.17 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.18 บาท/หุ้น, และ 0.22 บาท/หุ้น ตามลำดับ