EPG ติดดัชนี SET 100 ช่วงครึ่งแรกปี’65 ลุ้นยอดขายเติบโตดีกว่าเป้าหมาย

HoonSmart.com>>อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป กลับเข้าคำนวณ SET 100 ตั้งเป้าโต ปี 64/65 ของยอดขายที่ 11,000 ล้านบาท เอเชียยอดขายปรับตัวดีขึ้น ในประเทศทยอยฟื้นตัวจากการคลายล็อคดาวน์และเปิดประเทศ

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลกเปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.65) โดย EPG กลับเข้าคำนวณ SET 100 ในรอบนี้หลังจากเว้นไป 1 รอบที่ผ่านมา

บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจในปีบัญชี 64/65 (เม.ย.64 – มี.ค.65) ยอดขายที่ 11,000 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นที่ 29 – 32% โดยในครึ่งปีแรกของปีบัญชี 64/65 (เม.ย – ก.ย.64) บริษัทมียอดขาย 5,914.2 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.7% และ มีกำไรสุทธิ 862.2 ล้านบาท และคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีบัญชี 64/65 (ต.ค.64 – มี.ค.65) จะสามารถเติบโตได้ดีขึ้นกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีการปรับขึ้นราคาขายสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการที่ปรับสูงขึ้น อีกทั้ง ได้ปรับปรุงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต  สำหรับภาพรวมของตลาด ในสหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ขณะที่เอเชียยอดขายปรับตัวดีขึ้น และในประเทศทยอยฟื้นตัวจากการคลายล็อคดาวน์และเปิดประเทศ

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM ยอดขายมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้ง AEROKLAS มีจุดแข็งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้ง OEM/ ODM (Original Design Manufacturer) After Market และการส่งออก จึงสามารถใช้ช่องทางดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้เกิด Synergy ของกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของ AEROKLAS อีกทั้ง แนวโน้มความต้องการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)ในอนาคตจะเพิ่มขึ้น มีความต้องการใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงทนทาน จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของ AEROKLAS

ธุรกิจในออสเตรเลีย แม้ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าจากการส่งมอบรถยนต์ใหม่เนื่องจากชิปขาดแคลน (Semiconductor Shortage) แต่คนออสเตรเลียยังคงมีความต้องการยานยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle และ SUV เนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวในประเทศ อย่างไรก็ตาม TJM เตรียมความพร้อมรองรับลูกค้าในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และร้านค้าภายใต้แบรนด์ TJM ทั่วออสเตรเลีย

นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนและการร่วมค้า ภาพรวมปรับตัวดีขึ้นทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมฉนวนกันความร้อน/เย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดย Aeroklas Duys (Pty) Ltd. แอฟริกาใต้ ได้รับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นและหลากหลายขึ้น และบริษัท ฟาร์แอร์โร จำกัด ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผลิตเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ายานยนต์ OEM คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในไตรมาส 4 ปีบัญชี 64/65 (ม.ค. – มี.ค.65) รศ.ดร.เฉลียว กล่าว