“คิงส์ฟอร์ด” คาด SET ทรงตัวกรอบ 1,630 – 1,650 จุด

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นทรงตัว แรงหนุนอุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว ปัจจัยเสี่ยงผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มหลังปีใหม่ ติดตามครม.ออกมาตรการกระตุนเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้ หุ้นแนะนำวันนี้ PACO-CPALL

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบ 1,630 – 1,650 จุด ยังได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว โดยปัจจัยเสี่ยงคือ จำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นหลังปีใหม่ แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนี่อ่อนตัว เช่น KBANK, SCB/ CPALL, CPN, CRC/ GULF, GPSC และเก็งกำไร CBG, TKN

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.48%, S&P500 -1.03%, Nasdaq -0.07% ถูกกดดันหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า 3 ครั้ง โดยกลุ่มสถาบันการเงิน -2.30%, พลังงาน -2.20% นักลงทุนกังวลต่อการระบาดสายพันธุ์ Omicron ทาง Pfizer คาดการระบาดมีจนถึงปีหน้า

สัปดาห์นี้วันอังคาร ครม.เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, พุธ การประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ย และพฤหัส รายงานส่งออกไทย พ.ย.

สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA -1.70%, S&P500 -1.90%, Nasdaq -2.90% หลังเฟดเร่งลด QE เป็น 3 หมื่น ล.ดอลลาร์/เดือน ใน ม.ค. 65 และยุติ QE ใน มี.ค. 65 พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า 3 ครั้ง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อสูงขึ้น แม้ว่าเฟดคาดการณ์ GDP สหรัฐปีหน้าขยายตัว +4.00%, เงินเฟ้อสหรัฐปีหน้าคาด +2.60% สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวและเงินเฟ้อสูงไม่เกินไป แต่นักลงทุนปรับพอร์ตหุ้นกลุ่ม Growth ที่ Valuation จะถูกปรับลดลงในข่วงดอกเบี้ยขาขึ้น

ตลาดยุโรป Stoxx600 -0.56% หลังยุโรปเตรียมจำกัดการเดินทางจากระบาด Omicron หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดลงตาม Bond Yield ของยุโรป, กลุ่มรถยนต์ -2.70% หลังยอดจดทะเบียนรถยนต์ พ.ย. -17.5% เนื่องจากภาวะขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ทางฝั่งยุโรป ECBคงดอกเบี้ย แต่จะยุติโครงซื้อสินทรัพย์ PEPP วงเงิน 1.85 ลล.ยูโร ใน มี.ค.65 ยังคงหนุน ม.ผ่อนคลายในช่วงมีความเสี่ยงระบาด Covid-19

ส่วน BOE อังกฤษปรับขึ้นดอกเบี้ย +0.15% อยู่ที่ 0.25% เพื่อคุมเงินเฟ้ออังกฤษ พ.ย. +5.10% YoY แต่ยังหนุน มาตรการซื้อพันธบัตร 8.75 แสนล้านปอนด์/ปี สัปดาห์นี้รอประเมินการระบาด Omicron ในยุโรป ซึ่งเนเธอร์แลนด์ได้สั่ง Lock Down ในช่วงคริสมาสต์ – ปีใหม่ ขณะที่อังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 8 – 9 หมื่นราย/วัน 60% เป็นสายพันธุ์ Omicron

ส่วนรายงานตัวเลขเศษฐกิจ วันพุธ GDP สหรัฐ Q3/64 คาด +2.1% QoQ, พฤหัส Core PCE สหรัฐ พ.ย. คาด +4.5% &ต.ค.+4.1% YoY , ศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐ &ยุโรปปิดในวันคริสมาสต์

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ได้แก่ PACO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) คาดว่าได้รับประโยชน์จากการที่รัฐเตรียมประกาศมาตรการส่งเสริม EV ซึ่งกำลังจะเข้า ครม.ในเดือนนี้ โดยเงื่อนไงมีทั้งการลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต และตั้งกองทุนอุดหนุนคืนเงิน สนับสนุนครอบคลุมทั้งซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งการผลิต ชิ้นส่วนและแบตเตอรี่ในประเทศ รวมไปถึงการลงทุนสถานีชาร์ต โดยระยะแรกของการสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV จำเป็นต้องมาจากการนำเข้า แต่ต่อไปจะให้เกิดการผลิตในประเทศ

ทั้งนี้มีการวางเงื่อนไงต้องให้ค่ายรถที่นำเข้า EV มีการผลิตเพื่อชดเชยการนำเข้าภายใน 2 ปี โดยหากนำเข้า 1 คัน ต้องผลิตชดเชย 1.5 คัน ภายในปี 66 และต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญที่ผลิตในไทย ประเด็นดังกล่าวจะกระตุ้นให้ค่ายรถยนต์ที่มีโรงงานผลิตในไทยอยู่แล้วในการนำ EV เข้ามาขายและผลิตชดเชยภายหลัง โดย PACO มีโอกาสที่จะเสนอสินค้าประเภทแบตเตอรี่คูลเลอร์รถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ในรูปแบบของ OEM ให้แก่ค่ายรถยนต์ทั้งค่ายญี่ปุ่นและจีน จากปัจจุบันที่พัฒนาสินค้าวางขายใน Aftermarket ต่างประเทศ

หุ้น CPALL(ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท) คาดการดำเนินงานในช่วง 4Q64 ฟื้นตัว QoQ รับ Sentiment บวกจากม.ผ่อนคลายการควบคุมของภาครัฐฯที่ยังมีมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ Traffic คนเดินทางสูงขึ้น ขณะที่ม.กระตุ้นการบริภาคต่างๆจะช่วยในเรื่องของกำลังซื้อ ล้วนเป็นบวกต่อยอดขาย 7-11 นอกจากนี้ในแง่ของการเติบโตในระยะถัดไปยังจะมีปัจจัยบวกจาก 1.Synergy ภายหลังจาก Lotus เข้าไปอยู่ใต้ MAKRO 2.การขยายสาขา 7-11 เข้าไปในกัมพูชาและลาว(ซึ่งในกัมพูชาเริ่มเปิดสาขาแล้วตั้งแต่ ก.ย.64) ปัจจุบัน เราประเมินกำไรสุทธิปี64 และ 65 ที่ 10,316 ลบ.(-35.94%YoY) และ 17,761 ลบ.(+72.17%YoY) ตามลำดับ