ดาวโจนส์ลบ 59 จุด ผิดหวังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 59 จุด แต่ฟื้นตัวจากระหว่างวันร่วงกว่า 239 จุด นักลงทุนผิดหวังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ยังเกาะติดสถานการณ์ไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 24 เซนต์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ปิดที่ 34,580.08 จุด ลดลง 59.71 จุด หรือ 0.17% แต่ฟื้นตัวจากที่ร่วงลงไป 239 จุดระหว่างวัน นักลงทุนผิดหวังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ยังเกาะติดสถานการณ์ไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,538.43 จุด ลดลง 38.67 จุด, -0.84%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,085.47 จุด ร่วงลง 295.85 จุด, -1.92%

กระทรวงแรงงานรายงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นเพียง 210,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 531,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม และต่ำกว่า 581,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนอัตราการว่างงานลดลงมาที่ 4.2% ดีกว่า 4.5% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงแรง โดยหุ้นเทสลาลดลง 6.4% หลังจากอีลอน มัสค์ขายหุ้นออกอีกมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ หุ้น Zoom ลดลง 4.1%

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของไวรัสลดลงเช่นกัน โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจ ทั้งโรงแรม สายการบินอ่อนตัวลง หุ้นลาส เวกัสแซนด์ลดลง 3.7% หุ้นเดลตาแอร์ไลน์ลดลง 1.8% หุ้น นอร์วีเจียน ครูซไลน์ลดลง 4.5% และหุ้นคาร์นิวาลลดลง 3.9%

นักวิเคราะห์จาก LPL Financial ระบุว่า ยังมีความไม่แน่นอนสูงเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ประกอบกับผิดหวังข้อมูลการจ้างงาน นักลงทุนจึงขายหุ้นออกในช่วงสุดสัปดาห์

สถานการณ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนเกาะติด เพราะพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนใน 5 รัฐแล้ว ขณะที่พบผู้ติดเชื้อในอีกกว่า 20 ประเทศ

นักวิเคราะห์จาก SEI ระบุว่า ประเด็นหลักคือ การตอบสนองต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนของรัฐบาลทั่วโลก และจะมีผลให้มีการล็อกดาวน์หรือไม่

นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งถอนมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ

ไอเอชเอส มาร์กิต รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพฤศจิกายนลดลงมาที่ระดับ 58.0 จาก 58.7 ในเดือนตุลาคม

Didi บริษัทเทคโนโลยีจากจีนที่เข้าจดทะเบียนได้ไม่ถึง 6 เดือน ประกาศผ่านแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียเว่ยปั๋วว่า จะถอนบริษัทออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ราคาหุ้นลดลง 22.2%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง แม้ในช่วงแรกตลาดปรับตัวขึ้นสั้นๆ นำโดยกลุ่มเหมืองแร่ที่ลดลง 2.8% จากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใน 38 ประเทศเพิ่มขึ้นจาก 23 ประเทศในสองวันก่อนหน้า

ไอเอชเอส มาร์กิต รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ขั้นสุดท้ายยูโรโซนเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 55.4 จาก 54.2 ในเดือนตุลาคม แต่ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้น 55.8

นักวิเคราะห์จาก ไอเอชเอส มาร์กิต เตือนว่า การขยายตัวของ PMI เป็นภาวะชั่วคราว เพราะความต้องการเพิ่มขึ้นน้อยและธุรกิจคาดว่า การขยายตัวในระยะต่อไปจะลดลงเป็นผลจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัส

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 462.77 จุด ลดลง 2.67 จุด, -0.57%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,122.32 จุด ลดลง 6.89 จุด, -0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,765.52 จุด ลดลง 30.23 จุด, -0.44%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,169.98 จุด ลดลง 93.13 จุด, -0.61%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 66.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ก.พ. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 69.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล