HoonSmart.com>>คปภ. ประชุม CEO Insurance Forum 2021 ระดมความคิดเห็นภาคธุรกิจขับเคลื่อนนโยบาย ผุด 4 Hack the Future ก้าวผ่านสถานการณ์ที่ท้าทายของธุรกิจประกันภัย สร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษและเปิดการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย ประจำปี 2564 (CEO Insurance Forum 2021) ภายใต้ Theme “Navigating the Future of Thai Insurance to cope with COVID-19 and New Emerging Risks” เพื่อเป็นเวทีสื่อสารทิศทางและนโยบายในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทย แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นระหว่างสำนักงาน คปภ. ภาคธุรกิจประกันภัย และผู้เกี่ยวข้อง เป็นการแสดงศักยภาพการบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจประกันภัย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีฯ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ระบบประกันภัยกับการขับเคลื่อนการฟื้นตัวและรองรับความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจและสังคม” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า บริบทของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยได้เปลี่ยนไปจากเดิม จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของคนในสังคม
และให้สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย บูรณาการร่วมมือเพื่อผลักดันให้การประกันภัยเข้าไปมีบทบาทใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1) การส่งเสริมให้การประกันภัยเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม 2) การปรับตัวด้านดิจิทัล และ 3) ยกระดับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน ควบคู่กับการสร้างความรู้ด้านการประกันภัยแก่ประชาชน ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลและภาคธุรกิจประกันภัยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนให้เท่าทันกับบริบทใหม่ภายใต้ความเสี่ยงและความท้าทายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบประกันภัยให้ก้าวหน้ามีเสถียรภาพและเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
จากนั้น เลขาธิการ คปภ. ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยยุคใหม่” โดยฉายภาพทิศทางนโยบายของสำนักงาน คปภ. ที่ขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยในปี 2564 และเป็นปีแรกที่ขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจประกันภัย ภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2564 – 2568) ภายใต้วิสัยทัศน์ “ระบบประกันภัยไทย มีความมั่นคง ยั่งยืน และแข่งขันได้ในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนเข้าถึงการประกันภัยและใช้ประโยชน์ในการรองรับความเสี่ยง”
ดร.สุทฺธิพล กล่าวว่า หลัก 4 ประการ Hack the Future เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์ที่ท้าทายของภาคธุรกิจประกันภัย ได้แก่ 1) นำเทรนด์มากกว่าตามเทรนด์ ผลักดันกลยุทธ์ในเชิงรุกเพื่อปรับเปลี่ยน model การประกอบธุรกิจ และปรับตัวให้เร็วกว่า 2) เทคโนโลยีก้าวไกล ก้าวทัน Digital Disruption และการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในธุรกิจ 3) คิดให้สุด ไม่หยุดลงมือทำ ต้องคิดแบบ forward Looking และทำจนกว่าจะสำเร็จ และ 4) เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส “COVID-19 = Opportunity” การเรียนรู้และปรับตัวเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เราอยู่เหนือความเปลี่ยนแปลง
สำหรับการประชุม CEO Insurance Forum สำนักงาน คปภ. ได้ริเริ่มจัดงานมาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเป็นเวทีในการสื่อสารทิศทางและนโยบายระหว่างสำนักงาน คปภ. กับภาคธุรกิจประกันภัย ภาคส่วนสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำมาพัฒนาต่อยอดและปรับปรุงการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ สร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต โดยในปีนี้มี Highlight ที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ การประชุมกลุ่มย่อยเพื่อเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายระดมความคิดเห็น เพื่อกลั่นกรองสู่ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ โดยแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มย่อยที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในธุรกิจประกันภัย” ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันและเห็นว่าสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป มีดังนี้
1. เห็นชอบร่วมกันในการดำเนินการตาม Roadmap ในเรื่องต่าง ๆ
2. การจัดตั้งคณะทำงานร่วม ระหว่างสำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อร่วมพิจารณาประเด็นที่ต้องเร่งดำเนินการในการพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจประกันภัย
กลุ่มย่อยที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “การยกระดับการบริหารจัดการด้านสุขภาพด้วยการประกันภัยอย่างยั่งยืน” มีข้อสรุปร่วมกันและเห็นว่าสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป มีดังนี้
1. มาตรการระยะสั้น เห็นชอบในหลักการยกระดับการบริหารจัดการด้านสุขภาพอย่างเร่งด่วน โดยออกมาตรการรองรับทางกฎหมาย
2. มาตรการระยะยาว จะร่วมกันขับเคลื่อนยกระดับการบริหารจัดการด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มย่อยที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “การเพิ่มขีดความสามารถในการรับประกันภัย และการพัฒนาการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรอย่างยั่งยืน” มีข้อสรุปร่วมกันและเห็นว่าสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป มีดังนี้
1. นำเทคโนโลยีมาใช้ในการประเมินความเสียหายเพื่อให้การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และลดต้นทุน
2. ศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนประกันภัยด้านเกษตรกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทประกันภัย
3. พัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้านการเกษตร ให้ครอบคลุมความต้องการของเกษตรกร
4. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจประกันภัย
5. การเข้าถึงการทำประกันภัยของเกษตรกร โดยขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นรายกลุ่มในท้องที่มากกว่ารายบุคคล
6. การวางโครงสร้างพื้นฐานโดยการออกกฎหมาย ส่งเสริมการประกันภัยทางการเกษตรและกำหนดนโยบายอย่างยั่งยืน