กรุงศรี คอนซูมเมอร์คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้โต 3% แตะ 2.85 แสนลบ.

HoonSmart.com>>กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้โต 3% แตะ 285,000 ล้านบาท พร้อมปรับตัว ชูดิจิทัล นวัตกรรม ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ร่วมมือกับบริษัทในเครือและพันธมิตร เพิ่มโอกาสทางการตลาด

นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ประกอบไปด้วย บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิต โลตัส วีซ่า กล่าวว่า ผลประกอบการ 9 เดือน มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 199,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 54,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 128,000 ล้านบาท คาดสิ้นปี 2564 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรแตะ 285,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 142,000 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายเป็นเทศกาลจับจ่ายส่งท้ายปี ที่ปกติจะมีการใช้จ่ายมากกว่าช่วงอื่นๆ รวมทั้งการคลายล็อคดาวน์ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในทุกหมวด โดยเฉพาะหมวดช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ท่องเที่ยว และโรงแรม

ส่วน 9 เดือน หมวดใช้จ่ายที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (+62%)
2.ประกันภัย (+15%)
3.ตกแต่งบ้านและของใช้ในครัวเรือน (+8%)
4.ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (+7%)
5. ร้านสะดวกซื้อ (+6%)

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ปีนี้ บริษัทเน้นนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น การทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูล; พัฒนาบริการใหม่ๆ ในแอป UCHOOSE เช่น U Cash บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอปโดยโอนเข้าบัญชีธนาคารหรือพร้อมเพย์, UCard บริการรับสมัครบัตรใหม่ผ่านทางแอป, UMall นำเสนอดีลพิเศษสำหรับสินค้าจากพันธมิตรของบริษัท; การเปิดช่องทางบริการใหม่ทาง Krungsri Consumer Line OA และ Facebook; การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น บัตร Krungsri NOW บัตรเครดิตสำหรับชีวิตดิจิทัลที่มอบเครดิตเงินคืน 5% สำหรับการใช้จ่ายออนไลน์; บริการยืนยันตัวตนด้วยเสียง; บริการสอบถามข้อมูลบัญชีบัตรผ่านทาง FB Messenger เป็นต้น

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ปและพันธมิตร เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด พร้อมหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ รวมทั้งขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม