MTC ลั่นปี’65 นิวไฮต่อ พอร์ตสินเชื่อโต 30% ทะลุ 1 แสนลบ.

HoonSmart.com>> “เมืองไทย แคปปิตอล” เดินหน้ากลยุทธ์เติบโตจากขยายสาขา โค้งสุดท้ายเปิดอีก 150-200 สาขา สิ้นปีนี้สินเชื่อปิดที่ 9 หมื่นล้านบาท ไตรมาส4 รายได้นิวไฮ ส่วนปี 65 คาดพอร์ตโต 30% ทะลุ 1 แสนล้านบาท  ปี 66 ขยายสาขาเกิน 7,000 สาขา ยันไม่กระทบ สคบ. มีแผนคุมเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถ เพิ่งเริ่มทำปีนี้ปีแรก

นาย ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า ลูกค้ามีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อผ่านการขยายสาขาอีกไม่น้อยกว่า 700 สาขาต่อปี โดยตั้งเป้าหมายมีสาขามากกว่า 7,000 สาขา ภายใน 3 ปี

เป้าหมายของการเติบโตของสินเชื่อ   เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการนำหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ ต้องการให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อที่สะดวก และเป็นธรรม พร้อมดำเนินการธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปพร้อมกับชุมชนร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

ด้านนายปริทัศ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับ 100,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2564 ที่คาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างจะปิดที่ 90,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 85,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีกลยุทธ์สร้างการเติบโต จากการที่มีบุคลากรและสาขาที่ให้บริการอยู่ค่อนข้างมาก ประกอบกับมีผลิตภัณฑ์และการบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม

ขณะที่ไตรมาส 4/2564 บริษัทเตรียมเดินหน้าปล่อยสินเชื่อเต็มที่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สินเชื่อคงค้างสิ้นปีอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท โดยใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ 3 รุ่น วงเงิน 4,500 ล้านบาท และชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด  คาดว่ารายได้ไตรมาส 4 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากไตรมาส 3 มีรายได้รวม 4,032 ล้านบาท รวมถึงมีแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 150-200 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ 5,665 สาขา

“ภาพรวมปี 2564 เราคาดว่ายังมีการเติบโตทั้งรายได้และพอร์ตสินเชื่อรวม รวมถึงตั้งเป้าควบคุม NPLs ให้ต่ำกว่า 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.17% ถึงแม้ว่าปีนี้เป็นปีที่เรามองว่าเป็นการปรับฐาน แต่เรายังสามารถสร้างการเติบโตได้ ส่วนปี 2565 เราเชื่อว่าเป็นปีที่ดีอย่างแน่นอน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการสร้างการเติบโตขององค์กร ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายปริทัศ กล่าว

รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่อาจจะคุมอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี และห้ามเก็บส่วนที่เหลือจากผู้เช่าซื้อที่ใช้สิทธิยกเลิกสัญญาด้วยการส่งมอบรถ ซึ่งในท้ายที่สุดยังไม่ออกมาต้องรอติดตามข่าวก่อน ซึ่งถ้าทำจริง เกณฑ์ดอกเบี้ย 15% ค่อนข้างต่ำ อาจจะกระทบผู้ประกอบการหลายๆราย ที่มีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งบริษัทเองเพิ่งเริ่มทำสินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ปีนี้เป็นปีแรก