บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นฟื้นตัวกรอบวันนี้ 1,620-1,640 จุด

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นฟื้นตัว แนวต้าน 1,640 จุดแรงหนุนสัญญาณบวกการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยว ส่วนแนวรับ 1,620 จุด หุ้นแนะนำเก็งกำไร WICE-SPVI

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ฟื้นตัวโดยมีแนวรับที่ 1,620 จุด แนวต้าน 1,640 จุด ได้แรงหนุนสัญญาณบวกการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยว แนะนำซื้อกลุ่มเปิดเศรษฐกิจ เข่น AOT, AAV BA, ERW, MINT, CENTEL / ค้าปลีก CPALL, HMPRO, CRC, AWC/ พลังาน &โรงกลั่น PTT, PTTEP, TOP

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้คาดทรงตัวรอประเมินความเสี่ยงเงินเฟ้อ และ Fund Flow ตลาดอาเซียน (TIP) วานนี้ขายสุทธิ -20.56 ล้านดอลลาร์

สำหรับดัชนี SET วานนี้ +0.34% ปริมาณการซื้อขาย 71,995 ล้านบาท ต่างชาติ 1.99 พันล้านบาท สถาบันขาย 1.86 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเปิดเมือง เช่น ท่องเที่ยว, สื่อโฆษณา, โรงพยาบาล ที่คาดกำไร Q4 นี้เริ่มฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มเดินเรือ, ถ่านหินปรับขึ้นรับรายงานกำไร Q3/64 ที่ขยายตัวได้ดี

ส่วนการประชุม ครม.วานนี้อนุมัติวงเงิน 500 ล้านบาทสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จำนวน 2 ล้านเม็ด และสัปดาห์หน้า สธ.จะเจรจาซื้อยาแพ็กซ์โลวิดกับทาง Pfizer ส่งผลบวกต่อภาคท่องเที่ยวคาดจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 แสนคน/เดือนในช่วงปลายปีนี้ภาคบ่ายวันนี้ติดตามการประชุม กนง.คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50%

สำหรับหุ้นแนะนำ ได้แก่ WICE (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus 17.30 บาท) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q64 กำไรขึ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง หนุนจากปริมาณงานขนส่งทางเรือและการขนส่งทางบกข้ามพรมแดน รวมถึงบริษัทได้มีการเพิ่ม Capacity ของจำนวนตู้สินค้าเพื่อรองรับงาน

สำหรับแนวโน้มการขนส่งในช่วง 4Q64 คาดยังขยายตัวดีต่อเนื่องตามสภาพเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว การขนส่งทางเรือยังได้ประโยชน์จากปริมาณขนส่งเส้นทางสหรัฐฯ ยุโรป ส่วนธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน ETL มีแนวโน้มเติบโตเด่นตามความนิยมและบริษัทเข้าไปถือหุ้นเพิ่มเป็น 51% ซึ่งมีแผนนำเข้าตลาดในระยะถัดไป

หุ้น SPVI (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.74 บาท) กำไรสุทธิงวด 3Q64 อยู่ที่ 14.39 ลบ. (+83.3 YoY, -14.6% QoQ) แม้ว่าจะถูกกดดันจากการปิดสาขาจำนวนมากสืบเนื่องจากการระบาดของ Covid-19 แต่ยังมี Demand จากการ Work/Learn from Home เข้าช่วย

ขณะที่ปัจจุบันเข้าสู่ High Season ใน 4Q64 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากม.ผ่อนคลายการควบคุมโรค และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ด้านสินค้าหลักจาก ค่าย Apple ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม โดย iPhone 13 ซึ่งได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะขยายต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.18 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.28 บาท/หุ้น, และ 0.33 บาท/หุ้น ตามลำดับ