HoonSmart.com>> “สบาย เทคโนโลยี” มั่นใจ 4 กลุ่มธุรกิจโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “ตู้เติมเงิน” ได้ร้านรับส่งพัสดุช่วยหนุน Shipsmile ปิดดีลซื้อ Letter Post-Point Express ในเดือน ม.ค.นี้ ดันรายได้รวมปี 65 โตเกิน 50% พร้อมลงทุนตามแผนเพิ่มอีก 3 ดีล ขยายกลุ่มธุรกิจโตยิ่งขึ้น วางเงินลงทุนปี 65 ที่ 1.5-2 พันล้านบาท ย้ำสถานะการเงินแกร่ง คาด D/E ปลายปีนี้ต่ำกว่า 1 เท่า
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2565 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% มาจาก 4 แกนธุรกิจหลัก 1.ธุรกิจตู้เติมเงิน (Payment) 2.ธุรกิจ Solution ที่เกี่ยวกับธุรกิจร้านรับส่งพัสดุ (Drop-off Shop) 3.ธุรกิจการให้บริการทางการเงิน บริการชำระเงิน (Financial services) อาทิธุรกิจ ADM และ ATM 4.กลุ่มตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Merchandise) ซึ่งธุรกิจ Payment เป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการกว่า 57,036 ตู้
ขณะที่ธุรกิจ Solution จะเกี่ยวกับธุรกิจร้านรับส่งพัสดุ ปัจจุบันได้ร่วมมือกับบริษัท เอ.ที.พี.แฟรนส์ เซอร์วิส (ชิปป์สไมล์-Shipsmile) โดยบริษัทจะซื้อหุ้นเพิ่มในสัดส่วนไม่เกิน 10% จากผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าไม่เกิน 37.50 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วน 5% แรก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ และอีก 5% แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. ปลายปีนี้ คาดว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 48% จากปัจจุบันถือหุ้นอยู่ที่ 38% และในอนาคต ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะถือในสัดส่วนที่มากที่สุด ตามที่ได้รับอนุมัติ
ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าในเดือน ม.ค.2565 จะสามารถสรุปผลการเข้าลงทุนใน 2 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส (Letter Post) เข้าลงทุนซื้อหุ้นในสัดส่วน 70% มูลค่าไม่เกิน 42 ล้านบาท มีสาขาบริการกว่า 750 สาขา และ 2.เข้าลงทุนในบริษัท เอ็มพ้อยท์เอ็กซ์เพรส (Point Express) ซื้อหุ้นในสัดส่วน 60% มูลค่าไม่เกิน 24 ล้านบาท มีสาขาบริการกว่า 800 สาขา ทำให้บริษัทมีสาขารวมเพิ่มอีกกว่า 1,500 สาขา คาดว่าธุรกิจร้านรับส่งพัสดุจะเติบโตประมาณ 50%
นอกจากนี้คณะกรรมการได้อนุมัติให้ลงทุนในบริษัท 3 แห่งได้แก่ 1.บริษัทแพลท ฟินเซิร์ฟ (PFS) ซื้อหุ้น 50% จากบริษัท แคช แมชชีน แคปปิตอล (CMC) มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 1,130 ล้านบาท โดยชำระเป็นเงินสดจำนวน 360 ล้านบาท และที่เหลือ 770 ล้านบาท บริษัทจะชำระเป็นหุ้น โดยการออกหุ้นเพิ่มทุน 70 ล้านหุ้น เพื่อขายแบบเฉพาะเจาะจงในราคา 11 บาทต่อหุ้น โดย PFS ได้สิทธิในการติดตั้งตู้ ATM จำนวน 10,000 ตู้ บริเวณหน้าร้าน 7-11 ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 ปี และจะให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสผ่านตู้ ATM แทนการให้บริการด้วยพนักงาน
2. ซื้อทรัพย์สินธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) จำนวน 4,600 ตู้ จากบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เป็นเงินไม่เกิน 340 ล้านบาท ทำให้กลุ่ม SABUY มีตู้สินค้าอัตโนมัติเพิ่มขึ้น และมีศักยภาพในการแข่งขันเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่างแท้จริง จากปัจจุบันที่มีตู้ Vending Machine อยู่ประมาณ 5,600 ตู้
3.เข้าร่วมทุนกับ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท (FSMART) เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ บริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 50% ด้วยมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเครือข่าย ร้านรับส่งพัสดุ ซ่อมแซมตู้จำหน่ายสินค้า และพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต โดยการใช้จุดแข็งของทั้งสองบริษัท ขยายพื้นที่การให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท โดยยังมองหาโอกาสการลงทุนเพื่อขยาย Ecosystem ภายในกลุ่มที่ใหญ่และเติบโตมากขึ้น คาดว่าธุรกิจที่เป็นการซื้อกิจการต่างๆ จะมีสัดส่วนประมาณ 10-20% ของพอร์ต และเร่งให้อัตราการเติบโตของธุรกิจเดิมให้ดียิ่งขึ้น ส่วนฐานะการเงินบริษัทมีความแข็งแกร่ง อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 1 เท่า และคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะลดต่ำกว่า 1 เท่า เนื่องจากได้ถอดบางรายการออกจากงบดุลเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างในบริษัท ทีบีเอสพี (TBSP)