“ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์”โค้งสุดท้ายแนะ”กลุ่มเติบโตสูง-เทรนด์โลกอนาคต”เลี่ยงตลาดหุ้นจีน

HoonSmart.com>>“ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์” มองตลาดโลกโค้งสุดท้ายของปี เข้าสู่ช่วงกลางของวัฏจักร แนะลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง และกลุ่มเทรนด์โลกแห่งอนาคต กลุ่มธุรกิจสุขภาพ, กลุ่มเทคโนโลยี , กลุ่มสถาบันการเงิน และหุ้นปันผลสม่ำเสมอ เลี่ยงตลาดหุ้นจีน มีความเสี่ยงนโยบายภาครัฐที่เข้มงวดและการเข้าแทรกแซงบางธุรกิจ

มร. โจเซฟ คาเซราส กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายแนะนำการลงทุนและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ (SCB Julius Baer) กล่าวว่า จูเลียส แบร์ แนะนำการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ที่อาจมาพร้อมกับการทำ QE Tapering โดยเป็นโอกาสลงทุนในช่วงกลางของวัฏจักรเศรษฐกิจ (Mid-Cycle Opportunities) ที่ผ่านการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจอาจลดลงแต่ยังคงมีอยู่ทั้งนโยบายการเงิน และการคลัง ซึ่งจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยังปรับตัวขึ้นได้ ตลาดหุ้นในฝั่งประเทศพัฒนาแล้วยังมีความน่าสนใจลงทุน โดยเน้นลงทุนในกลุ่มเติบโต (Growth) และเพิ่มการลงทุนในกลุ่มที่เน้นตั้งรับ (Defensive) เพื่อลดความผันผวน

ซึ่งมุมมองเศรษฐกิจโลกไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 มี 4 ปัจจัยหลักที่มีผลกับการลงทุนดังนี้
1.ภาพใหญ่ในการลงทุน – โอกาสจากการผ่านเข้าสู่ช่วงกลางของวัฏจักร (Mid-Cycle Opportunities) ต่อจากนี้คาดว่าจะเห็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอลง ขณะที่การดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลาย และผลกำไรจากการผลิตต่าง ๆ ส่งผลให้อัตราการเติบโตภายหลังวิกฤตโควิดยังแข็งแกร่งอยู่

สำหรับตลาดหุ้น “ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์” แนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง (Growth Stocks) และเพิ่มหุ้นกลุ่มเชิงรับ (Defensive) โดยแนะนำเพิ่มการลงทุนในหุ้นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และคงคำแนะนำหุ้นในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ (Healthcare), กลุ่มเทคโนโลยี (IT), กลุ่มสถาบันการเงิน (Financials) และหุ้นปันผลที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ ในส่วนตลาดหุ้นจีนนั้น มองว่ายังมีความเสี่ยงนโยบายภาครัฐที่เข้มงวดรวมถึงการเข้าแทรกแซงในบางธุรกิจอยู่จึงปรับคำแนะนำเป็นการลงทุนหุ้นคุณภาพในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นประเทศจีน

2.ตราสารหนี้ – ต้องบริหารเชิงรุกและเลือกคุณภาพเครดิตอย่างระมัดระวัง
“ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์” เชื่อว่าการบริหารตราสารหนี้ในส่วนของอายุตราสารที่เลือกลงทุนเป็นสิ่งสำคัญในช่วงที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ลงทุนในความเสี่ยงด้านเครดิตระดับปานกลาง แต่เน้นการคัดเลือกคุณภาพของผู้ออกตราสารด้วยความระมัดระวัง

3.เทรนด์กระแสการลงทุนของโลกในอนาคต – ปัจจัยที่เราให้ความสำคัญ
“ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์” ให้ความสำคัญไปที่ 3 การลงทุนหลักที่น่าสนใจและเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดี ได้แก่
– การหมุนเวียนใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า (Circular Economy)
– การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี (Healthy Living)
– ยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility)

4.บริษัทที่มีความยืดหยุ่นและสามารถฟื้นตัวได้เร็ว – เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
แนะนำบริษัทที่มีความยืดหยุ่นสูง คือ มีอำนาจสูงในการกำหนดราคา มีรูปแบบการเติบโตของธุรกิจที่เป็นอิสระจากวัฏจักรเศรษฐกิจ และโดยทั่วไปไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain disruption)

“จากปัจจัยทั้ง 4 เชื่อว่ายังมีโอกาสด้านการลงทุนจากสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มเติบโตสูง และกลุ่มเทรนด์โลกแห่งอนาคต และควรกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไม่ควรที่จะลงทุนแค่ผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่ง โดย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ มีทีม Expert Advisory ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พร้อมให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษา ให้ลูกค้าบริหารพอร์ตได้อย่างยืดหยุ่น และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว” มร. โจเซฟ กล่าว