เคอรี่ฯ- เบทาโกร เปิดตัว “KERRY COOL” ผงาดเบอร์ 1 ตลาดขนส่งคุมอุณหภูมิ 4 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>เคอรี่ฯ จับมือ เครือเบทาโกร เปิดตัว “KERRY COOL” แพลตฟอร์มขนส่งด่วนควบคุมอุณหภูมิด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยรายแรกในไทย  ปัจจุบันมีมูลค่าอุตสาหกรรม 4 หมื่นล้านบาท เพียง 5% ของตลาดโลจิสติกส์ ตั้งเป้า 3 ปี เป็นผู้นำตลาด ส่วนแบ่งตลาด 50% สร้างรายได้ให้ KEX 25% แผน 5 ปี นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์  ลูกค้า  B2C โตอีกไกล ธุรกิจอาหาร และผลิตภัณฑ์เกษตร

นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับเครือเบทาโกร เปิดตัว “KERRY COOL” ขนส่งขนส่งควบคุมอุณหภูมิ  ปัจจุบันตลาดของอุตสาหกรรม มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท แค่ 5% ของตลาดโลจิสติกส์ มีการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 12-15% ต่อปี แต่ยังไม่ผู้เล่นรายใหญ่ ไม่มีผู้นำ ผู้ประกอบการ 5 อันดับแรกมีส่วนแบ่งตลาดรวมเพียง 10% จึงยังมีช่องว่างในการขยายตลาด และมีจุดอ่อนเรื่องมาตรฐานในการให้บริการของรายเล็ก ๆ โดยตลาด B2C ยังมีโอกาสอีกมาก คาดว่า 3 ปีแรกมีส่วนแบ่งตลาด 50% สร้างรายได้ 25% ให้กับ KEX ประมาณ 25%

โครงสร้างการร่วมทุน บริษัท เคอรี่เบทาโกร โดย KEX ถือหุ้น 60% และเบทาโกร 40% เม็ดเงินลงทุนเริ่มต้น 50 ล้านบาท สำหรับลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพร้อมเตรียมงบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 5 ปี เป็นผู้นำตลาดและสร้างรายได้ให้กับเคอรี่ เอ็กซ์เพรสกว่า 25% ของรายได้รวม ในที่สุดจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี

“เราจะสร้างปรากฎการณ์ในการให้บริการที่แตกต่าง “KERRY COOL” ซึ่งถือเป็นที่แรกที่ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยแพลตฟอร์มการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Express Delivery Platform) โดยนำเอาเทคโนโลยีและบริการที่มีคุณภาพระดับโลกอย่างระบบ Advanced technology & signaling system ซึ่งถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามอุณหภูมิของพัสดุตลอดการขนส่ง พร้อมกับการติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์อีกทั้งยังมีระบบการควบคุมอุณหภูมิภายในรถแบบ Dual Chamber ซึ่งสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ทั้ง 2 แบบ คือ แบบแช่เย็น 8-0% และแช่แข็งถึง -15% เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยบริการขนส่งเย็นแบบครบวงจรเจ้าแรกของไทย ”

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า เครือเบทาโกร มุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ ด้วยการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงในราคาที่เป็นธรรมสู่ผู้บริโภค  จึงมองหาโอกาสในการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านคุณภาพการให้บริการขนส่ง

ปัจจุบันธุรกิจ Cold Chain Delivery ของประเทศไทยยังคงเน้นจับกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นหลัก ยังไม่สามารถให้บริการผู้ประกอบการรายกลาง รายย่อย และผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง และพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 มีการซื้อสินค้าและอาหาร รวมถึงกลุ่มอาหารสด หรือแช่เย็น แช่แข็ง ผ่านช่องทาง ออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการอาหารทั้งรายใหญ่ และรายย่อยทั้งหมด ต้องปรับตัวทางธุรกิจโดยให้ความสำคัญเรื่อง Food Delivery มากขึ้น

“Kerry Cool นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สามารถเชื่อมโยงทุกภาคส่วนใน Food Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และทั่วภูมิภาคของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม” นายวสิษฐกล่าว