HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯ เฮียริ่งปรับปรุงเกณฑ์ Cash Balance ตั้งแต่ 1-12 พ.ย.นี้ ยกระดับความเข้มข้นมาตรการระดับ 1, 2 และ 3 ลดเก็งกำไรบางหุ้นร้อนแรง หวังเพิ่มเสถียรภาพตลาด ด้าน “บล.เอเซีย พลัส” #ASPS เผยปี 64 หุ้นติด Cash Balance-Trading Alert สูงถึง 326 บริษัท พุ่ง 6 เท่าตัวจากปี 63 ติดระดับ 2-3 จำนวนมาก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดรับฟังความเห็น (Public Hearing) ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นร้อนแรง ตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย.นี้ ยกระดับความเข้มข้นมาตรการระดับ 1, 2 และ 3 เนื่องจากในปี 64 สภาพการซื้อขายมีความร้อนแรงขี้น โดยเฉพาะในหลักทรัพย์ขนาดเล็กทำให้มาตรการกำกับการซื้อขายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการกำกับดูแล จึงมีการปรับปรุงเกณฑ์หวังเพิ่มประสิทธิภาพมาตการกำกับดูแล และทันต่อสถานการณ์
ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส (ASPS) เห็นด้วยกับตลท. ว่าต้องมีการปรับเกณฑ์การควบคุมเข้มงวดขึ้น เนื่องจากปีตั้งแต่ต้นปี 2564 มีจำนวนหุ้นที่ซื้อขายร้อนแรงจนติด Cash Balance รวมถึง Trading Alert สูงถึง 326 บริษัท (นับซ้ำ แต่ไม่รวม Warrant และ DW) เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตัว จากปี 2563 ที่ 48 บริษัท และเป็นการยกระดับมาเป็นระดับ 2 และ 3 อยู่พอสมควร
ส่วนผลกระทบต่อภาพรวมตลาดและมูลค่าซื้อขายคาดว่ามีไม่มากนัก หากอ้างอิงกับหุ้นที่ติด Cash Balance และ Trading Alert ณ วันที่ 2 พ.ย.2564 มีทั้งสิ้น 34 หุ้น (ไม่รวม Warrant และ DW) คิดเป็นสัดส่วน Market Cap. ต่อ SET Index เพียง 0.8% เท่านั้น
บล.เอเซีย พลัส เผยว่า สรุปทางตลาดหลักทรัพย์ยังคงกำกับดูแลภาพรวมตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิดให้ทันต่อเหตุการณ์ ขณะที่ฝ่ายวิจัย ASPS เห็นด้วยกับการยกระดับที่เข้มข้นขึ้น โดยการเปิดรับความคิดเห็นในการปรับเกณฑ์จากนักลงทุน น่าจะทำให้ช่วยลดความร้อนแรงของหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแบบหวือหวา แต่ขาดปัจจัยพื้นฐานรองรับ รวมถึงช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดและลดความเสี่ยงของผู้ลงทุนลงได้