DTAC กำไร 832 ลบ. Q3/64 ลดลง 42%

HoonSmart.com>> “ดีแทค” เปิดกำไรไตรมาส 3/64 จำนวน 832 ล้านบาท ลดลง 42% จากงวดปีก่อน เหตุต้นทุนโรมมิ่งบนเครือข่าย 2300 MHz เพิ่มขึ้น ด้านรายได้รวมขยับเล็กน้อย ฉุด 9 เดือนกำไร 3.18 พันล้านบาท

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 กำไรสุทธิ 832.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.35 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,435.66 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.61 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 3,184.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.35 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 4,826.06 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.04 บาท

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นกล่าวว่า บริษัทยังคงดำเนินตามกลยุทธ์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และได้ทำการตลาดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริการเสริมต่าง ๆ (Adjacent services) ที่สร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมาสู่ลูกค้า  ส่งผลให้มีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นในแต่ละไตรมาส  ด้วยจุดยืนของการให้บริการที่เป็นมากกว่าผู้ให้บริการโทรคมนาคม บริษัทจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อนำเสนอคุณค่าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ขณะที่การเดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจยังช่วยให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย”

ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/64 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 19.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 26,000 รายจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 400,000 รายจากสิ้นปีก่อน มาจากกลุ่มผู้ใช้บริการในระบบเติมเงิน  3.1 หมื่นราย และกลุ่มผู้ใช้บริการในระบบรายเดือนที่ติดลบ 5 พันราย ทั้งนี้จำนวนผู้ใช้บริการในระบบรายเดือนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 32% ของจำนวนผู้ใช้บริการรวม

รายได้ค่าบริการไม่รวม IC ลดลง 2.1% จากไตรมาสก่อน และ 2.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA สำหรับไตรมาส 3/64 มีมูลค่า 7,443 ล้านบาท ลดลง  7.7% จากไตรมาสก่อน และลดลง  4.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA margin (normalized) อยู่ที่  47.5% ในไตรมาสที่ 3/64   รายได้รวม  เท่ากับ 19,232 ล้านบาท ลดลง 3.8% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการปิดร้านค้าเนื่องจากมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19

ในไตรมาสนี้ EBITDA (ก่อนรายการอื่น ๆ) ลดลง 7.7% จากไตรมาสก่อน สาเหตุมาจากรายการพิเศษที่ให้ผลกระทบเชิงบวกในไตรมาสก่อน และพัฒนาการของรายได้ที่อ่อนตัวลง ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยรายการพิเศษจากการปรับปรุงต้นทุนค่าธรรมเนียม และการลดลง 4.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ที่อ่อนตัวลงจากผลกระทบที่ต่อเนื่องของโรคระบาด ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ EBITDA margin ของไตรมาส 3/64 เท่ากับ 38.7% แต่เมื่อหักรายได้จาก CAT ภายใต้สัญญาเช่าสินทรัพย์สัมปทาน และรายได้ค่าเช่าเครือข่าย 2300 MHz จาก TOT จะเท่ากับ 47.5%

อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี2564 ดีแทคคาดว่ารายได้จากการให้บริการและ EBITDA จะออกมาอยู่ในช่วงต่ำของแนวโน้ม โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการ ไม่รวม IC จะลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ และ EBITDA จะคงที่ และมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ 13,000-15,000 ล้านบาท