BE8 เคาะราคาไอพีโอ 10 บาท ขาย 27-29 ต.ค. เทรดพ.ย.นี้

HoonSmart.com>> “เบริล 8 พลัส” เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 10 บาท เปิดจองซื้อ 27-29 ต.ค.64 ปักธงเป็นผู้นำขับเคลื่อนการทำ Digital Transformation แห่งอาเซียน มุ่งขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวล้ำเทคโนโลยี ร่วมมือพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศขยายบริการใหม่ เดินหน้าพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีที่เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

น.ส.สุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า  บริษัทเบริล 8 พลัส (BE8) เตรียมเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคา 10.00 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 27-29 ต.ค.2564 และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในเดือนพ.ย.นี้

ปัจจุบันบริษัท เบริล 8 พลัส มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 75 ล้านบาท ซึ่งภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายสาขาต่างประเทศ ลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

อภิเษก เทวินทรภักติ

นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส (BE8) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในธุรกิจ Digital Transformation แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ (End-To-End Digital Transformation Expert) จะเติบโตก้าวกระโดด โดยมีวิสัยทัศน์เป็น “คู่คิดทางธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ ด้วยความใส่ใจ ตั้งใจ และความรับผิดชอบ ที่เชื่อมโยงและตอบโจทย์กลยุทธ์ของลูกค้า เพื่อก่อให้เกิดคุณค่าทางธุรกิจอย่างยั่งยืน” มุ่งเน้นให้บริการตั้งแต่คำปรึกษาด้าน Digital Strategy

การวางแผนพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ไปจนถึงการติดตั้งระบบและให้บริการสนับสนุนการใช้งาน และนำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาสนับสนุนลูกค้า เช่น Salesforce, Google Workspace จาก Google, Tableau, Snowflake, MuleSoft ฯลฯ ด้วยมาตรฐานการให้บริการระดับสากลทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังมีทีมวิจัยและพัฒนาระบบ และซอฟต์แวร์ที่หลากหลายของบริษัทฯเอง

นอกจากนี้ได้ขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV โดยเริ่มต้นขยายธุรกิจที่ประเทศเวียดนามเป็นแห่งแรก พร้อมวางแผนขยายสู่ประเทศอื่นๆในอนาคต โดยวางเป้าหมายเป็นผู้นำขับเคลื่อนการทำDigital Transformation แห่งอาเซียน

“การเสนอขายหุ้น IPO จะเพิ่มขีดความสามารถ BE8 เป็นหนึ่งในผู้นำขับเคลื่อนการทำ Digital Transformation แห่งอาเซียน โดยนำเสนอบริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงงานบริการที่ตอบโจทย์การทำ Digital Transformation ทั้งการขยายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์จากพันธมิตรระดับโลก การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ตลอดจนร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในไทยและภูมิภาคอาเซียนให้ก้าวล้ำ Digital Disruption” นายอภิเษก กล่าว

น.ส.พิมพ์กานต์ ปุญญเจริญสิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนักลงทุนสัมพันธ์ BE8 กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตภายใต้การให้บริการ Digital Transformation แบบครบวงจร โดยมีความเชี่ยวเป็นพิเศษด้านการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) การสร้างโมเดลการวิเคราะห์ชั้นสูงและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ พร้อมนำเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกจากพันธมิตรมาสนับสนุนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยมีทีมงานและที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งมีความเข้าใจธุรกิจเพื่อนำเสนอบริการที่เหมาะสม ตลอดจนการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศเพื่อผสานจุดแข็งพร้อมให้บริการร่วมกัน โดยนำเสนอบริการหรือเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่และผู้ประกอบการ SMEs

ขณะที่การขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ วางแผนขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเริ่มทำตลาดในเวียดนามผ่านบริษัท เบริล 8 พลัส เวียดนาม จำกัด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย (Reseller Partner) ของ Salesforce เป็นรายแรก เตรียมนำบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation รวมทั้งนำเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์จากพันธมิตรระดับโลกเพิ่มขีดความสามารถให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อก้าวสู่ผู้นำการทำ Digital Transformation แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

“เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการ Digital Transformation ที่ก้าวล้ำเทคโนโลยีอยู่เสมอ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราวางแผนใช้งบลงทุน 25 ล้านบาทเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรม อาทิ การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับกลุ่มสถาบันการเงิน และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามลักษณะการใช้งาน เช่น โปรแกรม Tenant Management โปรแกรม Omni Channel Package โปรแกรม Telesales Management เป็นต้น เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถองค์กรให้ก้าวล้ำ Digital Disruption พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า” น.ส.พิมพ์กานต์ กล่าว