SCB กำไร 8,818 ล้านบาท Q3 โต 90% “เติบโตแกร่ง-สำรองลด”

HoonSmart.com>>ไทยพาณิชย์มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 จำนวน 8,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน และกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 27,720 ล้านบาท ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจดีขึ้นและการตั้งเงินสำรองลดลง

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่าธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 3 จำนวน 8,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความสามารถในการทำกำไรจากของธุรกิจและการตั้งเงินสำรองลดลง ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 21,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2564 ธนาคารมีกำไรสุทธิจานวน 27,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาส 3 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 23,533 ล้านบาท ลดลง 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนแรงกดดันต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลง

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 13,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคารและธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง การฟื้นตัวของธุรกรรมการค้า และกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารอยู่ที่ 42.8% ในไตรมาส 3 ของปี 2564

ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 10,035 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 3 ของปี 2564 และเป็นจำนวน 30,071 ล้านบาท สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2564

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 3.89% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.79% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 137.6% และเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.4%

“ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องแม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของธนาคารและความสามารถในการปรับตัวภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธนาคารยังคงเน้นช่วยเหลือลูกค้าและสังคมผ่านโครงการช่วยเหลือทางการเงิน ในไตรมาส 3 ธนาคารได้เริ่มกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของธนาคารมีโอกาสฟื้นตัวจากวิกฤตแบบยั่งยืน ส่วนแพลตฟอม์ส่งอาหารโรบินฮู้ด ในไตรมาสนี้มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1.9 ล้านราย ธนาคารจะยังคงมุ่งมั่นยกระดับให้บริการบนช่องทางดิจิทัลให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม” นายอาทิตย์กล่าว