คาดสินเชื่อระบบแบงก์โต 5% เช่าซื้อรถ-อสังหาฯเด่น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดช่วงที่เหลือของปี สินเชื่อระบบแบงก์โตในกรอบ 4.8-5.3% เศรษฐกิจหนุน ส่วนเดือนก.ค.ทรงตัวจากเดือนมิ.ย. มีการชำระคืนสินเชื่อภาคธุรกิจจำนวนมากในธนาคารขนาดใหญ่และกลาง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดแนวโน้มสินเชื่อในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี 2561 ของธนาคารพาณิชย์ 14 แห่ง ภาพรวมอาจจะเติบโตที่กรอบ 4.8-5.3% ตามแรงดึงของกิจกรรมเศรษฐกิจ และแรงผลักจากธนาคาร เพื่อให้บรรลุเป้าสินเชื่อที่ตั้งไว้และชดเชยรายได้จากค่าธรรมเนียมเงินโอนที่ลดลง

” สินเชื่อภาคธุรกิจ และสินเชื่อรายย่อยที่มีพอร์ตขนาดใหญ่ ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อรถและและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นตัวนำ แม้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2561 จะเริ่มบังคับใช้สัญญาเช่าซื้อใหม่ แต่คงมีผลกระทบต่อการให้สินเชื่อในวงจำกัด โดยเฉพาะความต้องการของตลาดรถที่ยังรักษาโมเมนตัมได้ต่อเนื่อง” บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ

สำหรับแนวโน้มเงินฝาก และการระดมทุนในตราสารหนี้และเงินกู้ในช่วงที่เหลือของปีคงโน้มเอียงไปในประเภทที่มีระยะเวลานานขึ้น แต่แรงกดดันด้านราคาน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากทุกธนาคารยังจำเป็นต้องบริหารจัดการต้นทุนการเงินให้สอดคล้องกับความสามารถในการหารายได้

นอกจากนี้การพัฒนาช่องทางบริการบนโทรศัพท์มือถือ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้นในหลากหลายธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน จะมีส่วนช่วยเพิ่มระดับการออม โดยเฉพาะเพื่อรองรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับการออมประเภทอื่นที่อาจมีความเสี่ยงหรือข้อจำกัดด้านสภาพคล่องมากกว่า

ส่วนภาพรวมสินเชื่อสุทธิเดือนก.ค. ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.31 ล้านล้านบาท หลังจากขยายตัวในอัตราเร่งสูงสุดในเดือนก่อน แต่หากเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนและสิ้นปีก่อน สินเชื่อยังเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 5.92% และ 2.3% โดยสินเชื่อที่ยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ค.คือสินเชื่อเช่าซื้อรถและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่เนื่องจากมีการชำระคืนสินเชื่อภาคธุรกิจจำนวนมากในธนาคารขนาดใหญ่และกลาง ประกอบกับสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตที่ค่อนข้างทรงตัว ทำให้ภาพรวมสินเชื่อของระบบธนาคารในเดือนก.ค.อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน

ภาพรวมเงินฝากในเดือนก.ค.ลดลงจากเดือนหน้าหน้า 2.66 หมื่นล้านบาทหรือ 0.22% เป็น 12.30 ล้านล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 5.41% เกิดจากเงินฝากประจำของภาคธุรกิจในธนาคารขนาดใหญ่และกลางบางแห่ง ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายสูง ขณะที่ธนาคารอื่นยังมีเงินฝากเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ในเดือนก.ค.มีธนาคารขนาดใหญ่และเล็กออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษรวม 3 ธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่ออกเพื่อชดเชยเงินฝากเดิมที่ครบกำหนด และยังไม่มีสัญญาณการแข่งขันด้านราคา แต่ระยะเวลาการฝากยาวนานขึ้นเป็น 1-2 ปี จากเดิมไม่เกิน 1 ปี นอกจากนี้แคมเปญส่วนหนึ่งยังเน้นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และให้ข้อเสนอดอกเบี้ยเพิ่มพิเศษแก่ลูกค้าที่ถือผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและกองทุนรวม

“สภาพคล่องของระบบในเดือนก.ค.ตึงตัวขึ้นไม่มาก ยกเว้นบางธนาคารที่ตัวตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ