WHART เพิ่มทุนครั้งที่ 6 มูลค่า 5.5 พันลบ. ขาย 12.90 บาท/หน่วย

HoonSmart.com>> กองทรัสต์ WHART  เพิ่มทุน ลงทุนอสังหาฯ 3 โครงการ มูลค่า 5.5 พันล้านบาท  เสนอขายหน่วยทรัสต์ให้แก่ผู้ถือหน่วยเดิม  8-12 พ.ย บุคคลทั่วไป 16-19 พ.ย. คาดซื้อทรัพย์เข้ากองเสร็จต้นเดือน ธ.ค.นี้ หนุนมูลค่าสินทรัพย์รวมแตะ 4.81 หมื่นล้านบาท จุดเด่นสัญญาเช่าระยะยาว-กองทรัสต์โตต่อเนื่อง-จ่ายปันผลดี คาดจ่ายผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้นเป็น 0.80 บาท

นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์  ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เปิดเผยว่า  การเพิ่มทุนครั้งที่ 6 เพื่อลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมจำนวน 3 โครงการ พื้นที่เช่ารวม 184,329 ตารางเมตร มูลค่าไม่เกิน 5,550 ล้านบาท  เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์เป็น 48,189 ล้านบาท จากเดิม 42,639 ล้านบาท และมีพื้นที่ เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 1.58 ล้านตารางเมตร จากเดิม 1.39 ล้านตารางเมตร  คาดว่ากระบวนการซื้อทรัพย์สินจะแล้วเสร็จประมาณต้นเดือน ธ.ค.นี้

WHART จะเข้าลงทุน 3 โครงการ เป็นคลังสินค้าประเภท Built-to-Suit จำนวน 2 โครงการ และโครงการประเภท General Warehouses จำนวน 1 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าอาคารรวม 3 โครงการประมาณ 184,329 ตารางเมตร มีกลุ่มผู้เช่าที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตและมีความมั่งคง อย่าง Alibaba Group Shopee Xpress และ ทีดี ตะวันแดง ดังนั้นการเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีเสถียรภาพ พร้อมรับศักยภาพในการการเติบโตในอนาคต

ความโดนเด่นของการเพิ่มทุนในครั้งนี้ พื้นที่เขต EEC เพิ่มขึ้นจาก 14.1% เป็น 20.6% ขณะที่ Built to Suit เพิ่มขึ้นจาก 55% เป็น 58% เพิ่มศักยภาพรายได้มั่นคงในระยะยาว นอกจากนี้ยังขยายลูกค้า E-Commerce อย่างมีนัยสำคัญจาก 6% เป็น 17% ทำให้กองทรัสต์มีผู้เช่ารายใหญ่ในกลุ่ม E-Commerce เกือบครบทุกราย ไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Shopee Xpress, JD Central, Kerry และ Flash Express เป็นต้น

นอกจากนี้ทรัพย์สินยังมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยถึง 92% และมีอายุสัญญาเช่าคงเหลือของผู้เช่าเฉลี่ย (WALE) หลังทำการเพิ่มทุน อยู่ในระดับสูงถึง 3.5 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 ปี  โดยอายุสัญญาเช่าเฉลี่ยของทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้อยู่ที่ 10.7 ปี

“กองทรัสต์ WHART ยังคงความเป็นผู้นำของกองทรัสต์ประเภทศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้าและโรงงานที่ใหญ่ที่สุดประเทศไทย  ซึ่งยังช่วยสร้างการเติบโตและมั่นคงให้กับรายได้ และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นหน่วยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเรามีแผนที่จะเข้าลงทุนทรัพย์สินในทุกปี ปีละประมาณ 100,000-150,000 ตารางเมตร และใช้เงินลงทุนประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท รวมถึงไม่ปิดกั้นการซื้อทรัพย์สินอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการบริหารของ WHA Group เพื่อสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต” นายอนุวัฒน์ กล่าว

ด้านนายสาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้บริหารกลุ่มงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า WHART จะเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 385,898,000 หน่วย ให้แก่ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 21 ต.ค.2564 ในอัตราส่วน 1 หน่วยทรัสต์เดิมต่อ 0.1181 หน่วยทรัสต์ที่ออกใหม่ ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย.2564 ชำระเงินจองซื้อที่ราคาสูงสุด 12.90 บาท/หน่วย  สำหรับประชาชนทั่วไป ตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.2564 โดยประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนอ้างอิงงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2565 อยู่ที่ประมาณ 0.80 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่ 0.79 บาทต่อหน่วย

ด้านน.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การขายทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการ  คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4 ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายจะโดดเด่นที่สุดของปี 2564