บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นแกว่งขึ้น แนะเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP-BCP

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นแกว่งขึ้นทดสอบ 1,650 – 1,660 จุด แนะทยอยซื้อกลุ่มเปิดเมือง เก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP-BCP

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ วางFilter แนวรับดัชนีที่ 1,630– 1,635 จุด โดยคาดดัชนีมีโอกาส Sideway Up ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,650 – 1,660 จุด แนะนำทยอยซื้อกลุ่มเปิดเมือง SCB, KBANK / CPALL,CPN / AOT, AAV / AMATA,WHA กลุ่มปิโตร &โรงกลั่น PTTGC, TOP, BCP และอสังหา LH, AP, ORI

สำหรับดัชนี SET วานนี้ +0.34% ปริมาณการซื้อขาย 8 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อ 3.7 พันล้านบาทสถาบันขาย 1.7 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตร ฯ +2.44% รับอุปสงค์ผลิตภัณฑ์เคมี, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ +0.93% จากอุปสงค์อุปกรณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ภาพรวมดัชนี SET ปรับขึ้นรับการฟื้นตัวใน Q4 นี้ สัปดาห์นี้รอรายงานกำไรกลุ่มธนาคาร

วานนี้ KKP รายงานกำไร Q3/64 อยู่ที่ 1,478 ลบ. +9.7% QoQ, +11.8% YoY โดยรายได้ดอกเบี้ย +0.8% QoQ, +8.3% YoY ,รายได้มิใช่ดอกเบี้ย +1.9% QoQ, +54.2% YoY จากรายได้ค่าธรรมเนียม IB, หลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ขณะที่ Cost to Income ลดลงอยู่ที่ 40.8% และสำรอง ECL ทรงตัวที่ 1 พันล้านบาท., NPL อยู่ที่ 3.5% & Q2/64 ที่ 3.4% สะท้อนกำไร KKP เริ่มฟื้นตัว วันนี้ติดตามการประชุม ครม. พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.10%, S&P500 +0.34%, Nasdaq +0.84% ทรงตัว หลังจีนเผย GDP 3/64 ขยายตัวน้อยกว่าคาด แต่ได้แรงหนุนกลุ่มสินค้าอุปโภคฟุ่มเฟือย+1.20%, กลุ่มเทคโนโลยีและสื่อสาร +0.85% นำโดย Facebook +3.26% เตรียมสร้างทีมงาน Metaverse (โลกดิจิทัลเสมือน) ส่วน NAHB เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ต.ค. เพิ่มขึ้น 4 จุด อยู่ที่ระดับ 80 นักลงทุนรอรายงานกำไร บจ.Q3/64 โดย Factsetคาด 80% ใน S&P500 มีกำไรดีกว่าคาดตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.50% หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราปรับลดลง หลังจีนรายงาน GDP Q3/64 ต่ำสุดในรอบ 1 ปี

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ กลุ่มโรงกลั่น (ซื้อเก็งกำไร) แนวโน้มผลการดำเนินงานหลักฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2H64 หนุนจากค่าการกลั่นที่ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ US$6-7/bbl โดย Crack Spread Gasoline Jet Diesel เฉลี่ยใน 4Q64 (QTD) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.2 ดอลลาร์/บาร์เรล, 11.3 ดอลลาร์/บาร์เรล, 11.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามลำดับ เป็นผลจากความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง และใช้ทดแทนก๊าซและถ่านหินที่ราคาพุ่งขึ้นสูง ดังนั้นหุ้นที่ได้รับผลบวกตรง บล.คิงส์ฟอร์ด เลือก TOP, BCP

BEM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.40 บาท) ช่วงเดือน ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ปริมาณจราจรของBEM และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟื้นตัว MoM มาอยู่ที่ระดับ 738.93 พันเที่ยวต่อวัน (-32.02%YoY, +32.01% MoM) และ 100.00 พันเที่ยวต่อวัน(-67.74%YoY, +61.29%MoM) จากจุดต่ำสุดของปีในเดือน ส.ค. 64 และหากอ้างอิงถึงจุดต่ำสุดในปีก่อนช่วงเดือน เม.ย.63

บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินว่า ปริมาณจราจร และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า จะกลับเข้าสู่ระดับ 80-90% ของระดับปกติได้ใน 2-3 เดือนประจวบกับการ Reopening ที่เกิดขึ้น จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ผลประกอบการของ BEM ฟื้นตัวในปีหน้า ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ในปี 65 จะฟื้นตัวจากในปีนี้ที่ 0.07 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ระดับ 0.21 บาท/หุ้น