บล.ทิสโก้ แนะถือ AOT เป้าแค่ 63 บาท จ่อหั่นเป้า เสี่ยงอุ้ม’คิง พาเวอร์’ ต่อ

HoonSmart.com>>บล.ทิสโก้เตือนนักลงทุนดีใจเร็วเกินไป “ท่าอากาศยานไทย” ไล่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นรอบที่ 4 นับตั้งแต่เกิดโควิด ขึ้นแซงมูลค่าเหมาะสมที่ 63 บาท คาดไตรมาส 4 (ก.ค.-ก.ย.64) ขาดทุนยับ 4.5 พันล้านบาท มากกว่าไตรมาสที่ 3 คาดปรับลดประมาณการปี 64 บริษัทจะปรับลดเป้าผู้โดยสารลง การยกเว้นค่าสัมปทานให้กับบริษัท คิง พาวเวอร์ กลับมาเป็นความเสี่ยง ด้าน 4 นักวิเคราะห์แนะนำซื้อ ส่วนบล.โนมูระฯให้มูลค่าเพียง 57.25 บาท 

บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ว่าราคาหุ้น AOT กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นรอบที่ 4 นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าเราจะมีมุมมองเชิงบวกต่อการท่องเที่ยว แต่ยังคงกังวลว่า AOT จะมีการประกาศยกเว้นค่าสัมปทานต่อหลังจากที่มีปรับลดคาดการณ์ผู้โดยสารลง ณ ระดับราคาปัจจุบัน แนะนำให้ “ถือ”

ทั้งนี้คาดว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 4/2564 (ก.ค.- ก.ย.) ยังคงเป็นช่วงที่แย่ของ AOT คาดว่าบริษัทจะรายงานผลประกอบการขาดทุน 4,500 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่ขาดทุน -4,100 ล้านบาท และขาดทุน – 3,700 ล้านบาท ในปีก่อน เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารในประเทศที่ลดลง และคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และผลขาดทุนจากค่าเงินจะเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบบางส่วนจะชดเชยได้จากค่าสัมปทานที่เพิ่มขึ้น หากไม่รวมผลของค่าเงิน คาดจะขาดทุน  4,230 ล้านบาท AOT เตรียมปรับประมาณการปี 2564 – 2566 (ตามปีงบประมาณของบริษัท)

ทั้งนี้ คาดว่า AOT จะปรับประมาณการผู้โดยสารใหม่ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากไม่มีการประกาศมาตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่เราคาดว่าจะต้องมีการปรับประมาณการลงจากเดิม และทำให้การยกเว้นค่าสัมปทานให้กับบริษัท คิง พาวเวอร์ กลับมาเป็นความเสี่ยง แม้ว่าสถานการณ์จะยังไม่ดีขึ้นจากเดิม แต่ด้วยราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มองว่านักลงทุนยังไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงเชิงลบในประเด็นนี้

“เราแนะนำให้ ถือ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 63 บาท โดยมีความเสี่ยงคือ การยกเว้นสัมปทาน, นักท่องเที่ยวที่น้อยกว่าคาด และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น”บล.ทิสโก้ กล่าว

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ตามปีงบประมาณของบริษัท) คาดปี 2564 ขาดทุนสุทธิ -15,410 ล้านบาท ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ -4,658 ล้านบาท ปี 2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 17,911 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 กำไรสุทธิ 25,026 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิ 4,321 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์ 4 ใน 6 ราย ยังคงแนะนำ “ซื้อ” AOT บล.เคทีบีเอสที ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 75 บาท บล.หยวนต้าให้เป้าหมาย 74 บาท บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และบล.เอเซีย พลัส ให้ราคาเท่ากัน 70 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุดวันที่ 15 ต.ค.ที่ 67.50 บาท

ส่วนบล. โนมูระ พัฒนสิน แนะนำถือเท่ากับตลาด มูลค่าเหมาะสมเพียง 57.25 บาท โดยมองว่าอุตสาหกรรมการบินเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง แต่เชื่อว่าการฟื้นตัวของราคาหุ้น AOT ในช่วงนี้สะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวของอุตฯการบินไปบ้างแล้ว และคาดว่าผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2565 (ตามปีปฎิทิน) เป็นอย่างน้อย จึงยังคงคาดว่าปี 2564-2565 มีผลขาดทุน-15,830 ล้านบาทและ -3,073 ล้านบาทตามลำดับ