ONEE เคาะช่วงราคาขาย IPO 7.50-8.50 บาท เปิดจอง 20-21,25-26 ต.ค.นี้

HoonSmart.com>> “วัน เอ็นเตอร์ไพรส์”  เตรียมเสนอขาย 496.252 ล้านหุ้น พาร์ 2 บาท ช่วงราคาที่ 7.50-8.50 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ  20-21 ,25-26 ต.ค.นี้  คาดเข้าเทรดใน SET สัปดาห์แรกของเดือน พ.ย.นี้  มั่นใจกำไรปี 64 ดีกว่าปีก่อน โชว์กำไรเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังพุ่งกว่า 200% เป้าหมาย 3-5 ปี (67-69) ลดช่องทางโทรทัศน์เหลือ 40-45% จาก 47% เพิ่มออนไลน์เป็น 25-28% ต่างประเทศเพิ่มขึ้น 7-10% จาก  5%  

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นเพิ่มทุนของบริษัท วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เปิดเผยว่า ONEE เตรียมเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 496,252,500 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนจำนน 476.25 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมของบริษัท ซีเนริโอ ไม่เกิน 20,002,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2 บาท กำหนดช่วงราคาเสนอขายที่ 7.50 – 8.50 บาทต่อหุ้น  เปิดให้จองซื้อในวันที่ 20-21 และ 25-26 ต.ค นี้ มูลค่าไม่เกิน 3,721.9 – 4,218.1 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแคป)ณ ราคา IPO ประมาณ 17,859.4-20,240.6 ล้านบาท

“ช่วงราคาเสนอขายหุ้นเบื้องต้นที่ 7.50 – 8.50 บาท  กำหนดจากผลตอบรับและความสนใจเบื้องต้นของนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยเราจะเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันที่สัดส่วน 60% ของหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นช่วงราคาเสนอขายที่มีความเหมาะสมที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ประกอบกับความโดดเด่นและความแตกต่างของ ONEE ที่ไม่เหมือนกับผู้เล่นรายอื่นในธุรกิจสื่อและความบันเทิงของประเทศไทย พร้อมทั้งได้พิจารณาถึงสภาวการณ์ตลาดโดยรวมและเสถียรภาพของราคาหุ้นในระยะยาว โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย.2564 นายอนุวัฒน์ กล่าว

นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมธุรกิจสื่อและความบันเทิงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากรากฐานการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพที่มีความหลากหลายทั้ง ละคร ซิทคอม ซีรีย์ รายการวาไรตี้ และข่าว ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Premium Mass, กลุ่ม Family, กลุ่ม New Generation และกลุ่ม Edgy รวมถึงการเป็นเจ้าของและบริหารช่องทางการเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และต่อยอดสู่การผลิตคอนเทนต์ให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้บริษัทฯยังประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การจัดงานอีเวนต์ การบริหารศิลปินในสังกัดกว่า 200 ราย การขายสินค้าจากรายการและศิลปิน และการให้เช่าสถานที่ถ่ายทำ เป็นต้น ด้วยวิสัยทัศน์ “การเป็นผู้นำในการสร้างความบันเทิง ความรู้ แรงบันดาลใจ เพื่อส่งมอบความสุขให้ผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย ภายใต้คุณภาพระดับสากลที่ผสานความเป็นไทยสู่เวทีโลก” ผ่านการบริหารจัดการด้วยทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีความเชียวชาญและมากด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี พร้อมด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ ONEE สามารถตอบสนองและปรับตัวตามพฤติกรรมและรสนิยมของกลุ่มผู้ชมเป้าหมายที่มีความหลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาท่ามกลางยุค Digital Disruption

สำหรับวัตถุประสงค์การระดมในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินไปขยายธุรกิจและพัฒนาศักยภาพในการสร้างการเติบโต เพื่อประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ด้วยการลงทุนทั้งการพัฒนาศักยภาพในการผลิตรายการ และการลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งนำไปใช้ปรับโครงสร้างเงินทุน หลังจากซื้อกิจการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป

​“การระดมทุนครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง สามารถพัฒนานักแสดงหน้าใหม่  ยกระดับคุณภาพของคอนเทนต์ไทยสู่ระดับสากล และเพิ่มขีดความสามารถในการนำคอนเทนต์ไปสู่ผู้ชมในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ ONEE สามารถขยายฐานผู้ชมได้ในทุกช่องทาง และส่งเสริมให้เราก้าวสู่ความเป็นผู้นำที่เชื่อมโลกการรับชมทุกแพลตฟอร์มเพื่อส่งมอบบันเทิงและความสุขให้คนไทยและผู้ชมทั่วโลกสู่การเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายถกลเกียรติ กล่าว

ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่ามีผลกระทบในช่วงไตรมาส 3 จากการล็อกดาวน์ ทำให้รายได้จากการโฆษณาลดลงไปบ้างเล็กน้อย และไม่สามารถออกไปถ่ายทำรายการได้ แต่ปัจจุบันได้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ส่งผลให้ในไตรมาส 4 ฟื้นตัวดีขึ้น  ภาพรวมทั้งปี 2564 รายได้รวมยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเป้าหมาย  กำไรคาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิาภาพ

ด้านผลงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 2,783 ล้านบาท เติบโต 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ  455 ล้านบาท  เติบโตกว่า 151.4%  โดยมีปัจจัยจากการเติบโตของรายได้รวม อัตรากำไรขั้นต้น การบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนผลงาน 3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) มีอัตราเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวม 4,199 ล้านบาท 4,818 ล้านบาท และ 4,875 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 7.7% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73 ล้านบาท 228 ล้านบาท และ 658 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี  201.0% โดยมีปัจจัยมาจากโมเดลธุรกิจแบบครบวงจรที่สามารถสร้างรายได้จากทุกช่องทาง ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้บริษัทได้วางเป้าหมาย 3-5 ปีข้างหน้า (2567-2569) คาดว่ารายได้จากช่องทางโทรทัศน์สัดส่วนลดลงอยู่ที่ 40-45% จากปัจจุบันประมาณ 47% ส่วนจากช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 25-28% จากปัจจุบันที่ 21% และช่องทางจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 7-10% จากปัจจุบัน 5% รวมถึงช่องทางอื่นๆสัดส่วนอยู่ที่ 12-25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 27% ซึ่งมีเป้าหมายที่จะครองอันดับ 1 ใน 3 ของช่วงเวลา Prime Time และครองอันดับ 1 ใน 4 ของช่วงเวลา All Day

นายระฟ้า ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดกลุ่ม ONEE เปิดเผยว่า บริษัทมีกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน  เพิ่มความสามารถในการขยายส่วนแบ่งการตลาดของเม็ดเงินโฆษณาผ่านช่องทางทีวีอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นรากฐานที่มั่นคง และต่อยอดสู่การเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Social Media และ OTT Platforms เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ชมที่หันไปบริโภคคอนเทนต์ทางช่องทางดังกล่าวที่มากขึ้น ปัจจุบันรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ถือเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ที่สามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง

” เรายังได้มุ่งขยายฐานผู้ชมไปสู่ระดับสากลผ่านเครือข่ายพันธมิตร OTT Platforms ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ Netflix, LINE TV, Disney+ Hotstar, WeTV, Viu, TRUE ID, AIS Play, IQIYI เป็นต้น ผ่านรูปแบบการบริหารลิขสิทธิ์และการรับจ้างผลิตให้แก่แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ปัจจุบัน ONEE มีฐานผู้ชมครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและอีกกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้เราเป็นผู้นำในธุรกิจการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์ของคนไทยอย่างแท้จริง อีกทั้งยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนา OTT Platforms เป็นของเราเองด้วย” นายระฟ้า กล่าว