HoonSmart.com>>กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้มีทิศทางอ่อนค่า ซื้อขายในกรอบ 33.50-34.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนะจับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.20 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.63 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 33.32-33.97 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 4 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์เป็นวงกว้างในตลาดโลก ทางด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50%
เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแตะระดับแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2563 และ กรกฎาคม 2563 เมื่อเทียบกับเยนและยูโรตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเริ่มขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังประธานเฟดแสดงความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนขณะที่ตลาดกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,003 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 8,661 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 3 เงินบาทอ่อนค่าลงถึง 5.6% และยังคงเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในภูมิภาคสำหรับปีนี้
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามข้อมูลภาคบริการและตลาดแรงงานเดือนกันยายนของสหรัฐฯ ซึ่งหากสดใสเกินคาดจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ต่อไป อย่างไรก็ดี กรณีที่ตำแหน่งการจ้างงานต่ำกว่าคาดแต่ค่าจ้างยังสูงขึ้นอาจทำให้ตลาดยิ่งวิตกต่อภาวะ Stagflation กดดันสินทรัพย์เสี่ยงและจำกัดการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ในระยะสั้น นอกจากนี้ ประเด็นการคลังสหรัฐฯ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดเช่นกัน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ กนง. ประเมินว่าไตรมาส 3 เป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจซึ่งจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยทางการคงประมาณการอัตราการขยายตัวของจีดีพีปีนี้ที่ 0.7% และเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปี 2565 เป็นเติบโต 3.9% จากที่เคยคาดไว้ที่ 3.7% ขณะที่เห็นว่ามาตรการด้านการเงินจะมีประสิทธิผลมากกว่าการลดดอกเบี้ย กนง. ระบุว่าการกระจายวัคซีนและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้
ขณะที่ในปี 2565 เศรษฐกิจจะค่อยๆฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาอย่างช้าๆ จากท่าทีล่าสุดและมติที่เป็นเอกฉันท์ ทำให้กรุงศรีคาดว่ากนง. จะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตลอดปี 2565 เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มสูงขึ้นตามตลาดโลกและการกู้เงินเพิ่มเติมจากภาครัฐ