บล.คิงส์ฟอร์ดวางแนวรับหุ้น 1,600 – 1,610 จุดปัจจัยตปท.กดดัน

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ถูกกดดันจากบอนด์ยีลด์พุ่ง ดอลลาร์แข็งค่า เศรษฐกิจเสี่ยงชะลอตัว วางแนวรับ 1,600 – 1,610 เป็นจุดกลับซื้อเก็งกำไร หุ้นเด่นแนะนำ DEMCO-TU

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SET ถูกกดดันจาก US. Bond Yield ผันผวน, Dollar แข็งค่า กอปรความเสี่ยงเศรษฐกิจจีนชะลอตัว วางแนวรับดัชนี 1,600 – 1,610 เป็นจุดกลับซื้อเก็งกำไร กลุ่มโรงกลั่น IRPC, ESSO, SPRC/ ถ่านหิน LANNA, AGE/ ซื้อกลุ่ม Defensive ADVANC, TRUE, DTAC

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.63%, S&P500 -2.04%, Nasdaq -2.83%ถูกแรงขายจากกลุ่มเทคโนโลยี -2.98% นำโดย Facebook, Microsoft จากความกังวลเฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังเจอโรม พาวเวลแถลงต่อสภาคองเกรสต่อแนวโน้มเงินเฟ้อสูงนานกว่าคาดการณ์ขณะที่กลุ่มพลังงาน +0.46% รับอุปสงค์ความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้น ส่วน Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย. ลดลงอยู่ที่ 109.3 &คาดที่ 114.50

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -2.18% ลดลงแรงสุดในรอบ 2 เดือน จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -4.80% หลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 1.50% ส่งผลให้ต้นทุนเงินกู้สูงขึ้น

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ DEMCO (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus N.A.) แนวโน้มผลประกอบการ 2H64 ดีว่าครึ่งปีแรก ตามการรับรู้รายได้จาก Backlog ทีอยู่ในมือ 3.36 พันล้านบาท โดยจะรับรู้ปีนี้ราว 62% ที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 66

นอกจากนี้ยังมีแผนเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มจากหน่วยงานภาครัฐทั้ง กฟผ. กฟน. กฟภ. ระยะสั้นแนวโน้ม 3Q64 จะมีการ Book เงินปันผลจาก WEH ช่วยประคองผลประกอบการ ก่อนดีขึ้นต่อใน 4Q64 หลังคลายล็อกดาวน์ ทำให้สามารถส่งมอบงานได้มากขึ้น โดยในอนาคตยังคาดหวังการจ่ายปันเงินผลจาก WEH มากขึ้น เบื้องต้นตลาดคาด EPS เฉลี่ยในปี 64-65 ราว 0.25 บาทต่อหุ้น เติบโตเด่นจะปี 63 ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Gap ในการเก็งกำไรจากที่ซื้อขายกันที่ระดับราว 0.8 เท่า Book

หุ้น TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.30 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานยังได้แรงหนุนจาก ยอดขายกลุ่มธุรกิจ Frozen & Chilled Seafood ที่ฟื้นตัวในสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งร้านอาหารกลับมาเปิดได้ตามปกติ และยอดขายกลุ่มธุรกิจ Petcare & Value-added ที่ยังคงมีโมเมนตัมการเติบโตที่ดีรวมถึงจำนวนหมาและแมว(สัตว์เลี้ยง)ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงที่ Covid-19 ระบาด

นอกจากนี้ในอนาคตยังคงมีปัจจัยบวกจาก 1.การนำกลุ่มธุรกิจจดทะเบียนในตลาด (TFMในปีนี้, i-tail ในปีหน้า) 2.จากแนวโน้มการฟื้นตัวการดำเนินงานของ Red Lobster และ 3.การลงทนในธุรกิจที่มีความน่าสนใจ เช่น Alternative Protein, ธุรกิจเครื่องปรุงรส เบื้องต้น เราคาดกำไรสุทธิ ปี 64 และ 65 ที่ 7,478 ลบ. (+19.72%YoY) และ 7,782 ลบ.(+4.07%YoY) ตามลำดับ