SCB ปฎิวัติครั้งใหญ่ ลั่นผู้นำ “เทคการเงิน”ภูมิภาค

HoonSmart.com>>ธนาคารไทยพาณิชย์ปรับโครงสร้างธุรกิจ ตั้งบริษัทเอสซีบี เอกซ์ (SCB X) ถือหุ้นบริษัทในกลุ่ม ยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค ตั้งเป้าภายในปี 2568 ลูกค้าทะลุ 200 ล้านราย มาร์เก็ตแคป 1 ล้านล้านบาท

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)กล่าวว่า คณะกรรมการธนาคารมีมติปรับโครงสร้างการถือหุ้นโดยตั้ง บริษัท SCB X เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุน  ซึ่งหลังจากที่แผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ธนาคารจะทำการแลกเปลี่ยนหุ้นธนาคารและ SCB X หากมีผู้แสดงเจตนาแลกเปลี่ยนหุ้นของธนาคารกับ SCB X ในจำนวนไม่น้อยกว่า 90%  ธนาคารจะนำ SCB Xเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทนหุ้นของธนาคาร

วัตถุประสงค์ของการปรับโครงสร้างการถือหุ้น เพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจได้อย่างเต็มที่ เพิ่มศักยภาพในการดึงดูดบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถ ตรงตามความต้องการของธุรกิจและเพื่อให้มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยงของธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้ธนาคารเดินหน้าด้วยความมั่นคง เพิ่มความคาดหวังกำไร 2-3 ปีข้างหน้า ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ที่มีศักยภาพในการเติบโตทั้งลึกและกว้าง

สำหรับการจัดตั้ง SCB X จะนำธุรกิจในเครือแบงก์ จัดตั้งบริษัทย่อยประมาณ 15-16 บริษัท เพื่อให้การบริหารงานคล่องตัวมากขึ้น และสามารถรุกขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่ โดยมีทีมผู้บริหารจาก SCB เข้าไปบริหารงานในบริษัทย่อยต่างๆ เช่น Card X ธุรกิจเกี่ยวกับบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ,บริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X ) เป็นการร่วมมือกับ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)  เพื่อทำธุรกิจให้เช่าซื้อ ลีสซิ่ง และให้สินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (Big Bike) และยานพาหนะทางน้ำเช่น เรือยอร์ช เรือในแม่น้ำ Tech X ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกทำธุรกิจเทคโนโลยี, AISCB เป็นการร่วมมือกับ  บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ทำสินเชื่อดิจิทัล, Robinhood แอฟพลิเคชั่นธุรกิจส่งอาหาร,จับมือบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารจัดการกองทุน โดยต่างถือหุ้น 50% นอกจากนี้ ยังร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน ขนาด 600 -800 ล้านหรียญสหรัฐฯ ลงทุนฝ่ายละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนที่เหลือจะระดมทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ มุ่งเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่มีศักยภาพตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงเติบโตทั่วโลก  เช่น บล็อกเชน

นอกจากนี้ คณะกรรมการธนาคารยังอนุมัติหลักการให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลพิเศษประมาณ 70,000 ล้านบาท ให้แก่ SCBX และผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ โดยเงินปันผลกว่า70% จะจ่ายให้กับ SCBX เพื่อนำไปใช้ในการโอนธุรกิจ ตั้งบริษัทใหม่ และเป็นเงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต ส่วนอีกกว่า 20% จะนำไปใช้เพื่อเป็นเงินปันผลในรอบปีหน้า และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

“การปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น SCBX ในครั้งนี้ ถ้าทำสำเร็จใน 5 ปีข้างหน้า เชื่อว่าจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 200 ล้านราย สามารถผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5- 2 เท่า และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปของ SCBX แตะ 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2568” นายอาทิตย์กล่าว