โนมูระฯ ชี้ปัจจัยนอกกด SET ยืนเป้าปีนี้ 1,600 คัด 11 หุ้นเด่นโค้งสุดท้าย

HoonSmart.com>> “บล.โนมูระ พัฒนสิน” ประเมินหุ้นไทยไตรมาส 4/64 ถูกถ่วงจากปัจจัยต่างประเทศ “QE Tapering-แผนผลักดันขึ้นภาษีสหรัฐฯ-เศรษฐกิจจีนชะลอ” แนะจัดพอร์ตผสมผสานหุ้น Value & growth เน้นธีมลงทุนระยะยาวกระแสเด่นในเอเชีย ผสานกลุ่มในประเทศที่ผลประกอบการฟื้นตัวจากเปิดเมือง ด้านลงทุนนอกเน้นตลาดหุ้น Southeast Asia ได้ประโยชน์ธีมเปิดเมือง แนะจังหวะตลาดปรับฐาน เพิ่มน้ำหนักหุ้น พร้อมเสิร์ฟ 11 หุ้นเด่นแนะนำ ADVANC-TRUE-KCE-BDMS-GULF-GPSC-CPALL-BEM-MAJOR-JMT-TIDLOR

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน มองภาพการลงทุนช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลาดจะให้ความสำคัญกับ 1) การถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินของ Fed (QE Tapering) ว่าจะเข้มงวดกว่าตลาดคาดหรือไม่ โดย Nomura มีมุมมองว่า Fed จะประกาศ Tapering ในการประชุมเดือน พ.ย. 2021 และมีผลเดือน ธ.ค. 2021 โดยลดการซื้อพันธบัตร 1หมื่นล้านเหรียญฯ และ MBS 5 พันล้านเหรียญฯ ทุกๆ เดือน ก่อนสิ้นสุดโครงการ มิ.ย.2022

อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านกรรมการ Fed ออกมาส่งสัญญาณนโยบายการเงินต่อตลาดอย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนล่วงหน้าไปมากแล้ว ประกอบกับโครงสร้างตลาดปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติน้อยลงเหลือ 35-40% ทำให้ตลาดน่าจะปรับฐานน้อยกว่า Taper Tantrum ปี 2013

2) หลังการพักฐานแล้วเสร็จ ตลาดหุ้น Southeast Asia น่าสนใจกว่า DM และ North Asia ที่ถูกถ่วงจาก 2.1 การผลักดันแผนปรับขึ้นภาษีสหรัฐฯของพรรค Democrat ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุนและเงินปันผล กดดันผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ และ 2.2 เศรษฐกิจจีนชะลอตัว (Beijing’s Volcker moment) กระทบ North Asia ที่เป็นเศรษฐกิจแบบเปิดจึงพึ่งพาการส่งออกมากกว่า TIPs ทั้งนี้ Nomura ประเมินเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวใน 2H21 จากแรงถ่วงในภาคอสังหาฯ รวมถึงการออกมาตรการเข้มงวดในอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากความเสี่ยงด้านหนี้สินของบริษัท Evergrande

3) ตลาดหุ้น Southeast Asia ยัง Laggard และไทยยังมีภาพบวกจากการเร่งฉีดวัคซีนขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว นำมาสู่การทยอยปลดล็อคกิจกรรมทางเศรษฐกิจปลายปี 2021 โดย Nomura ประเมิน 2022F GDP โต 4.1% จาก 0.6% ในปี 2021 เด่นสุดในภูมิภาค ก่อนเร่งตัวขึ้น สู่ 7.6% ในปี 2023 จากภาพการท่องเที่ยวที่จะกลับมาฟื้นตัวเด่นในปีนั้น

ดังนั้น ภาพตลาดหุ้นไทยในช่วง 4Q21 จะถูกถ่วงจากแรงกดดันจากภายนอกอย่าง QE Tapering ก่อนถูกประคองจากจิตวิทยาบวก Reopening ของภายใน คาด SET ปรับฐานไม่เกิน -10%+/- ภายใต้กรอบการแกว่งตัว 1650/1680 จุด (Best 1700 จุด) – 1556/1500 จุด (Worst 1478 จุด) โดยคงดัชนีเป้าหมายปี 2021F ที่ 1600 จุด และวางเป้าหมายสิ้นปีหน้าเบื้องต้น 1750 จุด

กลยุทธ์ แนะนำวางพอร์ตแบบ Balance ผสมผสาน หุ้น Value & growth เน้น Theme การลงทุนระยะยาวที่เป็นกระแสเด่นในเอเชีย ผสานกลุ่มในประเทศที่ผลประกอบการจะอยู่ในจุดฟื้นตัวจากการเปิดเมือง ส่วนการลงทุนต่างประเทศเน้นตลาดหุ้น Southeast Asia ที่ผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว และได้ประโยชน์จากธีม Reopening แนะนำกองทุน KT-ASEAN-A,TSF-A และ TMB50

อย่างไรก็ตาม จังหวะตลาดพักฐาน ให้ใช้เป็นจังหวะเพิ่มน้ำหนักหุ้น โดยหุ้นเด่นงวด 4Q21 แนะนำ

1) Tech modernization แนะนำ หุ้นคุณค่า Valuation ถูก ปันผลสูง พ้นจุดลงทุน 5G และผลประกอบการกำลังฟื้นตัว (ADVANC, TRUE) หุ้นเติบโตสูงกลุ่มชิ้นส่วนฯ ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาวะชิพขาดแคลนในอุตสาหกรรมยานยนต์ (KCE)

2) HealthCare/Wellness เน้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ที่ฐานกำไรเริ่มฟื้นตัวตามการให้บริการภายใน วัคซีนทางเลือก และ Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว (BDMS)

3) Accelerating themes เน้นหุ้นที่มี New S-Curved จาก Industry consolidation (GULF) และ Battery-Green Energy (GPSC)

4) Reopening เน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใน (CPALL, BEM, MAJOR)

5) M&A : แนะนำหุ้นที่มี Synergy ระยะยาวเด่น ขณะที่ฐานกำไรระยะสั้นเติบโตต่อเนื่อง (JMT)

6) Financial :เน้นผู้นำ Platform สินเชื่อรายย่อย และมีโอกาสเข้า MSCI เดือนพ.ย. 2021 (TIDLOR)