JR เล็งกำไรโตกระโดด การเงินแกร่ง จ่อคว้างานใหญ่

HoonSmart.com>>”เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้” ชูจุดแข็ง สภาพการแข่งขันยั่งยืนอย่างน้อย 5 ปี  งานใหม่ ทั้งเล็ก-ใหญ่จ่อเข้ามาเพียบ เห็นโอกาสชัดเจนธุรกิจไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ไอซีที-ไฟฟ้า ภาระหนี้ต่ำมาก ค่าใช้จ่ายลดฮวบ หนุนกำไรโตก้าวกระโดด

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้(JR) เปิดเผยว่า JR ยังคงรักษาสภาพการแข่งขันยั่งยืนอย่างน้อย 5 ปี และมีจุดเด่นทางการเงินที่ดำรงสภาพเงินสดกว่า 700 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) เพียง 0.88 เท่า และสัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่ำมากแค่ 0.006 เท่า ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมจากแบงก์เท่านั้น ไม่มีเงินกู้โครงการ ใช้ความน่าเชื่อถือและเครดิตไลน์ในการลงทุน ช่วยเพิ่มโอกาสได้งานใหม่และบริษัทต่างชาติรับงานใหญ่ๆ สนใจร่วมเป็นพันธมิตร มีการศึกษาโครงการร่วมกัน

นอกจากนี้ บริษัทได้นำจุดแข็ง Engineering Base และ IT Solution Base เพิ่มวัตถุประสงค์ในการขยายงานเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน น้ำมันและแก๊ส รวมถึงปิโตรเลียม หลังจากได้งานบริษัทไทยออยล์ เริ่มทยอยรับรู้รายได้แล้ว 90 ล้านบาทเศษ ยังมองเห็นโอกาสชัดเจนธุรกิจไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ของไอซีทีและไฟฟ้า

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 บริษัทมี Backlog อยู่ที่ 5,300 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีนี้ 1,400 ล้านบาท, ปี 2565 ประมาณ 2,500 ล้านบาท, ปี 2566 ที่ 1,100 ล้านบาท และปี 2567 ที่ 106 ล้านบาท ยังไม่รวมงานใหม่ ซึ่งไตรมาสที่ 3  รอเซ็นสัญญา 15 ล้านบาท รอเสนอราคา 7 ล้านบาท ซื้อขายอุปกรณ์ 87 ล้านบาท ไตรมาสที่ 4 เป็นงานวางระบบไฟฟ้า 181 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 19 ล้านบาท ส่วนปีหน้ายังมีงานที่จะเข้าประมูลอีกราว 7,000 ล้านบาทแบ่งเป็นงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูเฟส 2 มูลค่ากว่า 6,700 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 480 ล้านบาท

“JR วันนี้ มีหนี้สินเติบโตจากการรับรู้รายได้จากสัญญาระยะยาว มีงานที่เตรียมประมูลใหม่ถึงต้นปีหน้า 7,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ยังมองไกลถึงออกแบบเชิงระบบสนามบินอู่ตะเภา เราขยาย S Curve ชัดมาก  “นายจรัญกล่าว

ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 และ 4 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าได้รับผลกระทบจากโควิดก็ตาม โดยโรงไฟฟ้าของกัลฟ์ฯ จะเริ่มส่งมอบระบบ โรงไฟฟ้าหินกอง เดิมเป้าหมายรับรู้รายได้ในปีนี้ แต่เมื่อเลื่อนวัน COD ส่งผลให้บริษัทเติบโตในปีหน้า ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 2 แม้มีการล็อกดาวน์เข้าพื้นที่ไม่ได้ โดยรวมยังคงแข็งแรง กำไรสุทธิรวม 6 เดือนแรก ทำได้ 124 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 2563 ที่มีจำนวน 88 ล้านบาท เป้าหมายรายได้ในปีนี้ เติบโต 2 เท่าจากปีก่อน รอรับรู้ 1,400  ล้านบาท  แต่ค่าใช้จ่ายลดลงมากจากระดับ 9 % ตอนนี้ต่ำกว่า 5% พลิกทำให้กำไรโตก้าวกระโดด

ส่วนราคาเหล็กและทองแดงที่เพิ่มขึ้นถึง 60-70 % เช่น ราคาทองแดงปี 2562 อยู่ที่ 6,000 เหรียญ/ตัน ปัจจุบันอยู่ที่  9,000 เหรีญต่อตัน ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการล็อกราคายืนสัญญาเป็นเงินบาทสัญญา 3 ปี