บลจ.ยูโอบีจัดโปรโมชั่นกอง TCMF-I, UFFF-I รองรับคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้าน

HoonSmart.com>>บลจ.ยูโอบี จัดโปรโมชั่นพิเศษเสิร์ฟลูกค้านิติบุคคล รับสถาบันคุ้มครองเงินฝากปรับลดวงเงินคุ้มครองเหลือ 1 ล้านบาท ชูลงทุนกองทุนรวม TCMF-I และ และ UFFF-I ยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิ ทุกๆ 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 19 ส.ค. – 30 ก.ย.64 รับฟรี หน่วยลงทุนกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ เดลี มูลค่า 200 บาท ตอบโจทย์ลูกค้านิติบุคคลที่ต้องการกระจายความเสี่ยงหรือต้องการบริหารสภาพคล่องระยะสั้น

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำธุรกรรมลงทุนในกองทุนรวมของลูกค้าทั่วไป รวมไปถึงกลุ่มลูกค้านิติบุคคลด้วย ทาง บลจ.ยูโอบีจึงได้เตรียมความพร้อมช่องทางการลงทุนออนไลน์ UOBAM Invest Application และ Premier Online เพื่อรองรับการทำรายการลงทุนในกองทุนรวมภายใต้แนวคิด ‘New Normal, Stay Invest with Social Distancing’ และได้จัดให้มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้านิติบุคคลที่ลงทุนในกองทุนรวม TCMF-I และ และ UFFF-I ยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิ* ทุกๆ 1,000,000 บาท ตั้งแต่ 19 ส.ค.– 30 ก.ย.2564 รับฟรี หน่วยลงทุน กองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ เดลี มูลค่า 200 บาท ผ่านระบบ Premier Online หรือ แอปพลิเคชัน UOBAM Invest รายละเอียดโปรโมชั่น https://www.uobam.co.th/srcm/publication/mlp79l2b5/9l/2b/o0x0/Promotion-Top-up-1M-get-200-Corporate_final.pdf

บลจ.ยูโอบี มีมุมมองว่าปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของไวรัส Covid 19 มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่การเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพที่แตกต่างกันของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ภาพรวมการฟื้นตัวเศรษฐกิจแตกต่างกัน ในส่วนของประเทศไทยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังขึ้นกับการเร่งฉีดวัคซีน แม้ว่าเริ่มมีการผ่อนคลายการล็อคดาวน์และเริ่มทยอยเปิดเมือง ทำให้สร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นได้บ้าง แต่คุมการระบาดของไวรัสให้มีประสิทธิภาพจะเป็นประเด็นหลักที่ต้องติดตาม ด้วยสถานการณ์กล่าว ทำให้นโยบายการเงินโดยเฉพาะนโยบายดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป เพื่อประคอง เศรษฐกิจให้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปได้

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 ได้ปรับลดวงเงินความคุ้มครองเหลือ 1 ล้านบาท โดยหากสถาบันการเงินมีปัญหาหรือล้มละลาย สถาบันการเงินอาจจะชดเชยผู้ฝากเงินได้ตามจำนวนเงินฝากจริงแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 สถาบันการเงิน ซึ่งทำให้ผู้ฝากเงินอาจต้องมีการกระจายการลงทุนมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง

บลจ.ยูโอบี มองว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้านิติบุคคลที่ต้องการกระจายความเสี่ยงดังกล่าว หรือต้องการบริหารสภาพคล่องระยะสั้น การลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความน่าสนใจ ในขณะเดียวกันการเลือกลงทุนในกองทุนที่มีการกระจายไปยังตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ ทำให้ไม่ได้เสียโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ด้วย

อย่างไรก็ตามการลงทุนในตราสารหนี้เอกชนโดยทั่วไป นอกเหนือจากการพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ Credit rating ของตราสารนั้นๆ แล้ว การเลือกลงทุนในบริษัทของผู้ออกตราสารที่มีการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการการลงทุนด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Environment, Social and Governance : ESG) จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุน และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ระยะยาว ปัจจุบันทาง บลจ.ยูโอบี ได้มีการนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาปรับใช้ในการคัดเลือกผู้ออกตราสารที่กองทุนจะเข้าลงทุนสำหรับลูกค้านิติบุคคล คือ

กองทุนเปิด ไทย แคช แมเนจเม้นท์ ชนิดเพื่อผู้ลงทุนนิติบุคคล (TCMF-I) กองทุนมีระดับความเสี่ยง 1 เป็นกองทุนตลาดเงินที่มีสภาพคล่องสูง ลงทุนในตราสารภาครัฐฯและตราสารหนี้เอกชนคุณภาพที่อันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการพักเงินในระยะสั้น โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป กองทุนนี้ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศจึงไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน รายละเอียดกองทุน https://www.uobam.co.th/th/mutual-fund/00545/TCMF-I

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฟิกซ์ อินคัม ฟันด์ ออฟ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนนิติบุคคล (UFFF-I) กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 4 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั่วโลก เปิดโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ โดยกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ รายละเอียดกองทุน https://www.uobam.co.th/th/mutual-fund/00715/UFFF-I