AJA ผนึก CHO ลุยศึกษาผลิต-ประกอบ EV Bike คาดชัดเจนปีนี้

HoonSmart.com>> AJA ร่วมมือ CHO เตรียมแจ้งเกิด EV Bike สายพันธุ์ไทย หลังซุ่มทำตลาดแบรนด์ AJ มากว่า 2 ปี คาดเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ก่อนลุยผลิตปูพรมในปี 65 วางเป้าขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทย รองรับดีมานด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ชูจุดเด่นชาร์จไฟได้สะดวกรวดเร็ว ชาร์จครั้งเดียว ประหยัดกว่าราคาน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นายพิชัย ปัญจสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับ บริษัท ช ทวี (CHO) ทำการศึกษาโครงสร้างชิ้นส่วนประกอบและราคาของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อความเป็นไปได้ที่จะผลิต ประกอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งคันหรือบางส่วน และตัวแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดต้นทุนของการจัดสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในการจำหน่ายและให้ลูกค้า ได้ใช้บริการหลังการขาย

“AJA ได้เข้าสู่ตลาดรถ EV Bike ตั้งแต่ปี 2562 และเล็งเห็นว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทาง AJA ในฐานะผู้นำเข้ารถ EV Bike มาจำหน่ายในประเทศ จึงได้มีนโยบายพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะของรถให้เหมาะสมกับตลาดในประเทศ ในราคาที่ลูกค้ากลุ่มต่างๆ สามารถเข้าถึงได้”นายพิชัย กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า AJA มั่นใจในศักยภาพของ CHO ซึ่งเป็นบริษัทฯที่มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มายาวนาน เพื่อเป็นพันธมิตรในการศึกษาและพัฒนาการประกอบและผลิตชิ้นส่วนของรถ EV Bike และตัวแบตเตอรี่ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ก่อนที่จะเปิดตัว EV Bike สายพันธุ์ไทย ภายในต้นปี 2565 และก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดในอนาคต

ปัจจุบัน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ พระเอกตัวจริงไปได้ไกล…คู่ใจคุณ นำเข้าจากประเทศจีน แบตเตอรี่อึด และชาร์จไว ทนทาน ดีไซน์เท่ไม่เหมือนใคร ช่วยอนุรักษ์โลกโดยใช้พลังงานไฟฟ้า มีให้เลือกทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ หลากสไตล์ หลายความแรง มีสินค้า 4 รุ่น ประกอบด้วย มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV BIKE รุ่น Q5 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV BIKE รุ่น C-LIKE มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV BIKE รุ่น C-LION มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV BIKE รุ่น Z3 ราคาเริ่มต้นที่ 39,900-49,900 บาท

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี (CHO) กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ AJA มีหน้าที่จัดหารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าตัวอย่างและแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาให้บริษัทฯ เพื่อศึกษาโครงสร้างของต้นทุน ก่อนที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในการผลิตและประกอบรถจักยานยนต์ทั้งคัน หรือบางส่วน และตัวแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ ให้กับ AJA โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ก่อนเดินหน้าผลิตเพื่อป้อนตลาด EV Bike ภายในประเทศได้ในช่วงต้นปี 2565

“มั่นใจว่าการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การผลิต EV Bike เพื่อใช้ในประเทศไทย ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ให้สามารถเข้าถึง EV Bike ที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน ในระดับราคาที่เหมาะสม”นายสุรเดช กล่าว