HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนีฟื้นตัวตามการเริ่มเปิดเศรษฐกิจไตรมาส 4 หนุนหุ้นทดสอบแนวต้าน 1,640 จุด ส่วนแนวรับ 1,620 จุด แนะทยอยซื้อกลุ่มการเงิน ท่องเที่ยว ค้าปลีก สุขภาพ ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ แนะ CKP-IP
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SET มีแนวโน้มฟื้นตัวตามการเริ่มเปิดเศรษฐกิจใน Q4 วางแนวรับที่ 1,620 แนวต้าน 1,640 แนะนำทยอยซื้อ SCB, SAWAD, MTC, AEONTS/ ท่องเที่ยว CENTEL, MINT/ ค้าปลีก CPALL,TNP, CPN/ กลุ่มสุขภาพ BDMS, WINMED, SMD
ดัชนี SET วานนี้ +0.22% ปริมาณการซื้อขาย 7.9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อ 1.3 พันล้านบาท สถาบันซื้อ 552 ล้านบาท หุ้นกลุ่ม รพ.+2.08% ได้ปัจจัยหนุน รพ.เอกชนรับวัคซีนโมเดอร์น่าในช่วงกลาง ต.ค. ช่วยหนุนรายได้ฉีดวัคซีน กอปรกับการเริ่มเปิดประเทศ เป็นปัจจัยหนุนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ ขณะที่กลุ่มเกษตร +1.83% จากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตปาล์มน้ำมันดัชนีปรับขึ้นรับการเปิด Bangkok Sandbox จะเข้าสู่การพิจารณา ศบค.ในวันที่ 24 ก.ย. ส่วน FTSE Rebalance วันนี้ ส่งผลให้น้ำหนักหุ้นไทยลดลงราว 40 ล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.18%, S&P500 -0.16%, Nasdaq +0.13%หุ้นกลุ่มวัสดุ -1.09% พลังงาน -1.06% หลังกำลังการผลิตน้ำมันเริ่มปกติ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง หลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 1.336% ส่วนรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 20,000 ราย อยู่ที่ 332,000 สูงกว่าคาดที่ 330,000 ราย , ยอดค้าปลีก ส.ค. ดีกว่าคาด +0.70% &คาด -0.80% MoM
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.44% หุ้นกลุ่มเดินทาง &สันทนาการ +3.4% หลังไรอันแอร์ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการบิน ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ เช่น ริโอ ทินโต, บีเอชพี กรุ๊ป ปรับลดลงตามราคาโลหะ หลังจีนเตรียมระบายสต็อคจากคลังสำรอง และกังวลต่ออุปสงค์จีนอาจขะลอตามภาวะเศรษฐกิจ
สำหรับหุ้นแนะนวันนี้ ได้แก่ CKP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.40 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q64 จะเติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY จากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) และกระแสน้ำโขงผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ CKP ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น XPCL อีก 5% เป็น 42.5% ส่งผลให้ MWe เพิ่มขึ้นเป็น 1 GW รับรู้ตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป รวมถึงมี Solar Rooftop 6 โครงการทยอย COD และโรงไฟฟ้า BIC ที่จะกลับมาเดินเครื่องหลังจากปิดซ่อมตามแผน หนุนให้ทั้งปี 64 กำไรมีโอกาสขยับเกิน 2 พันล้านบาท เติบโตขึ้นโดดเด่นเทียบกับปีก่อนที่ 405 ล้านบาท
หุ้น IP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.50 บาท) การดำเนินงานรับแรงหนุนจาก Covid-19 ส่งผลให้ ผู้บริโภคเกิด awareness ต่อผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ทางบริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้ขึ้นเป็น 850-900 ล้านบาท (+90% ถึง +101%YoY) จากเดิม 750-800 ล้านบาท โดยในส่วนของช่วงครึ่งปีหลังยังจะมี่แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเติบโตของธุรกิจยา ซึ่งได้เข้าไปซื้อโรงงานของเทวาฟาร์มาก่อนหน้านี้ คาดว่าจะสามารถผลิตยาให้แก่ทางเทวา อิสราเอล ได้จำนวน 24 SKU โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้เลยที่ 100 ล้านบาท และปีหน้าจะมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากสินค้ากัญชง(1Q65)รวมถึงกระท่อม(Yr65) และ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทำจากพลาสติกร่วมกับ PJW*(2H65) ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะขยายต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.26บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.40บาท/หุ้น, และ 0.55บาท/หุ้น ตามลำดับ