HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 269 จุด วิตกไวรัสเดลต้ากระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจ กลบความหวังเฟด อาจยังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไปหลังตลาดแรงงานอ่อนตัว แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนดัชนี Nasdaq ปิดนิวไฮ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลดลง ราคาน้ำมันดิบร่วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 7 กันยายน 2564 ปิดที่ 35,100.00 จุด ลดลง 269.09 จุด หรือ 0.76% หลังกลับมาซื้อจากที่ปิดทำการในวันที่ 6 กันยายน ด้วยความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการระบาดของไวรัสเดลตาต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กลบความหวังที่ว่าธนาคารกลาง (เฟด) จะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปจากตลาดแรงงานที่อ่อนตัว
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,520.03 จุด ลดลง 15.40 จุด, -0.34%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่15,374.33 จุด เพิ่มขึ้น 10.81 จุด, +0.07%
แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดที่นิวไฮ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.57% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.55%
ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปี 2021 ลงมาที่ 5.7% ต่ำกว่า6.2% ที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ และลดการเติบโตของ GDP ไตรมาสสุดท้ายไว้ที่ 5.5% จาก 6.5% เนื่องจากมีปัจจัยลต่อการขยายตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่การระบาดของไวรัสเดลตามีผลต่อเศรษฐกิจไตรมาส 3 แล้ว มาตรการกระตุ้นทางการคลังที่ลดลงและภาคบริการที่ฟื้นตัวช้าจะทำให้เศรษฐกิจในระยะปานกลางเติบโตได้ลำบาก
เมื่อวานนี้แม้จีนรายงานข้อมูลการส่งออกและการนำเข้าเดือนสิงหาคมที่ขยายตัวสูงเกินคาดช่วยลดความกังวลว่าการระบาดของไวรัสเดลตาจะทำให้การเปิดเศรษฐกิจล่าออกไป แต่มีผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แต่นักลงทุนยังกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการลดขนาดของมาตรการกระตุ้นนอกสหรัฐฯโดยเฉพาะในสหภาพยุโรป
การส่งออกของจีนขยายตัว 25.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจาก19.3% เดือนกรกฎาคม ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 33.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงกว่า 28.1 % ในเดือนกรกฎาคม
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ มอร์แกน สแตนเล่ย์ปรับคำแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นลงเป็น underweight
หุ้นโบอิ้งลดลง 1.81% จากรายงานว่า การส่งมอบเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliner จะล่าช้า
หุ้นบริษัทผลิตยาปรับตัวลง โดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ลดลง 1.58% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ลดลง 1.64% หุ้นแอมเจน ลดลง 2.22% หลังจากมอร์แกน สแตนเล่ย์ปรับลดคำแนะนำลงทุน จาก overweight เป็น equal-weight
ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลเป็นประธานเฟดสมัยที่สองหรือไม่ รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 กันยายนนี้
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ลดลง 1.1% นักลงทุนจับการประชุมของ
ธนาคารกลางสหภาพยุโรป ( European Central Bank:ECB) จะประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ECB มีท่าทีปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้นจะรอจนถึงเดือนธันวาคมก่อนที่จะประกาศลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในเยอรมนี สถาบัน ZEW รายงานความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเดือนกันยายนลดลงมาที่ 26.5 จุด จาก 40.4 ในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่า 30.0 ที่นักวิเคราะห์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 472.87 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.49%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,149.37 จุด ลดลง 37.81 จุด, -0.53%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,726.07 จุด ลดลง 17.43 จุด, -0.26%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,843.09 จุด ลดลง 89.03 จุด,-0.56%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 71.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล