กองทุนรวม 8 เดือนโต 5% กว่า 2.5 แสนลบ. แรงหนุนหุ้นทั่วโลกพุ่ง

HoonSmart.com>> สมาคมบริษัทจัดการลงทุน เผย “กองทุนรวม” 8 เดือนปี 64 เติบโตกว่า 2.5 แสนล้านบาทจากสิ้นปีก่อน มูลค่าแตะ 5.29 ล้านล้านบาท อานิสงส์ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหนุนเงินลงทุนในหุ้นพุ่ง 2.8 แสนล้านบาท กว่า 19.42% ด้านกอง REIT ขยายตัว 6.48% สวนทางกองทุนประเภทอื่นๆ มูลค่าลดลงถ้วนหน้า ด้านกองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศโตแรงเกือบ 24%

สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) อุตสาหกรรมกองทุนรวมในช่วง 8 เดือนปี 2564 สิ้นสุด 31 ส.ค.ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 5,289,654 ล้านบาท เติบโต 251,868 ล้านบาท หรือ 5.00% จากสิ้นปี 2563 ที่มีมูลค่า 5,037,786 ล้านบาท

กองทุนที่ลงทุนในหุ้นมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเติบโตสูงขึ้นมากในเวลา 1 เดือน หรือเมื่อเทียบจากสิ้นก.ค.ที่ผ่านมาเติบโต 71,376 ล้านบาท หรือ 4.33% จาก 1,660,189 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,731,565 ล้านบาท ส่งผลให้เมือเทียบจากสิ้นปีก่อนเติบโตสูงถึง 281,529 ล้านบาท หรือ 19.42% เติบโตสูงสุด ทั้งนี้ เป็นผลจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านการลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นอีกประเภทที่เติบโต 12,441 ล้านบาท หรือ 6.48% ขณะที่กองทุนที่มีการลงทุนในสินทัรพย์ประเภทอื่นๆ มูลค่าลดลงทั้งหมด

ด้านกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งมีขนาดทรัพย์สินสูงสุดของอุตสาหกรรม มูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง 15,021 ล้านบาท หรือ -0.65% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 2,323,881 ล้านบาท ลดลงแตะ 2,308,860 ล้านบาท กองทุนที่ลงทุนแบบผสมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง 5,707 ล้านบาท หรือ -1.48% จากสิ้นปีก่อนมาอยู่ที่ 379,001 ล้านบาทและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลดลง 5,624 ล้านบาท หรือ -14.0% จากสิ้นปีก่อนลงมาอยูที่ 1396,656 ล้านบาท

สำหรับกองทุนเพื่อไปลงทุนต่างประเทศ (FIF) ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงในช่วง 8 เดือนปี 2564 อยู่ที่ 23.97% หรือ 231,534 ล้านบาท จากมูลค่า 965,922 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1,197,457 ล้านบาท ขณะที่กองทุนมันนี่ มาร์เก็ต ที่เป็นแหล่งพักเงินลงทุนมีมูลค่าลดลง 55,286 ล้านบาท หรือ -17.10% จากสิ้นปีก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุว่า มีการโยกเงินออกไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ที่มีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในรอบ 8 เดือนแรกสูงสุด ได้แก่ บลจ.ฟิลลิป มีอัตราการเติบโต 44.89% หรือ 1,210 ล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,906 ล้านบาท รองลงมา บลจ.วรรณเติบโต 37.63% เพิ่มขึ้น 22,946 ล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 60,983 ล้านบาท เป็น 83,929 ล้านบาท อันดับสาม บลจ.เอไอเอ เพิ่มขึ้น 36.01% หรือ 8,916 ล้านบาท มาอยู่ที่ 33,672 ล้านบาท อันดับสี่ บลจ.บางกอกแคปปิตอล เพิ่มขึ้น 34.69% หรือ 4,514 ล้านบาท มาอยู่ที่ 17,525 ล้านบาท อันดับห้า บลจ.ทิสโก้ เพิ่มขึ้น 32.76% หรือ 17,416 ล้านบาท มาอยู่ที่ 70,577 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากเม็ดเงินพบว่า บลจ.กรุงไทยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ เติบโตสูงสุด 57,798 ล้านบาท หรือ 9.26% จากสิ้นปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 624,011 ล้านบาท เพิ่มเป็น 681,809 ล้านบาท รองลงมา บลจ.กสิกรไทย เพิ่มขึ้น 53,773 ล้านบาท หรือ 4.84% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,111,626 ล้านบาท เป็น 1,165,399 ล้านบาท และยังคงเป็นบลจ.เดียวที่มีมูลค่าทรัพย์สินแตะ 1 ล้านล้านบาท

ติดตามข่าว หุ้นเด่นระหว่างวัน ผ่านช่องทาง Line OpenChat : https://line.me/ti/g2/wEbsUcMaP2oP45XhK3vYhQ