ดีบีเอสฯ เชียร์ TH จุดเปลี่ยนธุรกิจ มองปี 65 โตก้าวกระโดด

HoonSmart.com>>บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ”  TH ราคาเป้าหมาย 4.32 บาท ก้าวเข้าสู่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ จากจุดแข็งบริษัทที่มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นถึง 71% ของสินทรัพย์

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง  ( TH ) ให้ราคาพื้นฐาน 4.32 บาท/หุ้น โดยใช้วิธี GGM ประเมินมูลค่าที่ 3.2 เท่าของ PBV ประเมินมูลค่าพื้นฐานในเบื้องต้นที่ 4.32 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมการประมูลรอบใหม่ของบริษัทในปี 2565 และอยู่บนสมมติฐานดังข้างต้น ทำให้ยังมีส่วนต่างจากการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ของบริษัท ณ ราคาหุ้นปัจจุบันมียัง Upside มากที่ 31.7%

ทั้งนี้ บริษัท ฯ มีจุดเด่นที่ไม่มีต้นทุนทางการเงิน ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และการเอาท์ซอร์สเป็นหลักในช่วงเริ่มต้น ทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินต่ำ เทียบกับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในช่วงแรกของการดำเนินงาน

บริษัทประกอบธุรกิจลงทุนเป็นหลัก (Holding company) จากเดิมธุรกิจหลัก  ผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีน  หนังสือพิมพ์ตงฮั้ว ที่เป็นผู้นำหนังสือพิมพ์จีนชั้นนำในไทยที่มีประวัติยาวนานกว่า 60 ปี วางแผนขยายธุรกิจไปยังธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์เพียงอย่างเดียว และจัดตั้งบริษัทย่อย  3  ทำธุรกิจใหม่ ดังนี้

1. บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล๊บ จํากัด ( ชื่อเดิม บริษัท หนังสือพิมพ์ตงฮั้ว จำกัด ) บริษัทย่อยถือหุ้น  99.99% เป็นการเปลี่ยนชื่อเพื่อรีแบนด์และเตรียมพร้อมเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคใหม่ของสื่อ มีนายอาณกร กยาวัฒนกิจ เป็นประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (CTO) เชี่ยวชาญด้านเหรียญคริปโต และได้เคยทำงานร่วมกับผู้ร่วมก่อตั้งเหรียญ Ethereum อย่าง Mr. Gavin wood

2. บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด ซึ่ง TH ถือหุ้น 99.99% ดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อ รับซื้อหนี้การค้าในรูปของใบวางบิล ใบรับวางบิล หรือ invoice โดยการรับโอนสิทธิการรับเงินจากลูกค้า เพื่อจัดเก็บเงินจากลูกหนี้ (หน่วยงานราชการและเอกชน) รับซื้อ ขายฝาก เช่าซื้อ และให้สินเชื่อโดยมีหลักประกันเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและหลักประกันอื่น

3. บริษัท บริหารสินทรัพย์ตงฮั้ว จำกัด (TAM) เป็นบริษัทย่อยทางอ้อม  ทำธุรกิจบริหารและจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เข้าร่วมประมูลสินทรัพย์ 3,045 ล้านบาทนี้ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา และชนะการประมูล มีแผนการซื้อหนี้ปีต่อ ๆ ไป ปีละ 5-6 พันล้านบาท

จุดแข็งที่ฐานการเงินแข็งแกร่ง…เปิดโอกาสเข้าสู่ธุรกิจใหม่

TH มีสินทรัพย์รายการที่ใหญ่ที่สุดคือ เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น ในขณะที่หนี้สินรายการที่ใหญ่ที่สุด เป็นเพียงเจ้าหนี้การค้ามูลค่า 15.32 ล้านบาท ไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย  ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัท O มีเงินสด 75.25 ล้านบาท และเงินลงทุนระยะสั้น 835.81 ล้านบาท (ลงทุนในตราสารหนี้ 814.46 ล้านบาท) รวมสองรายการ เท่ากับมีเงินสด 911.065 ล้านบาท คิดเป็น 71.29% ของสินทรัพย์รวม ทำให้บริษัทยังมีศักยภาพในการลงทุนได้อีกมาก และไม่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายในงบการเงินรวม แข่งขันกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมฯ บริหารสินทรัพย์ได้ไม่ยาก

บริษัทประเมินรายได้ TAM ในปี 2565 จะมากกว่า 250 ล้านบาท  คาดว่าไตรมาส 4/64 จะเรียกเก็บหนี้ได้ราว 20-30 ล้านบาท และในปี 2565จะเรียกเก็บได้ประมาณ 250 ล้านบาท (ณ ปัจจุบันสามารถตามเก็บหนี้ได้มาแล้ว 5 ล้านบาท)

ประเมินกำไรสุทธิปี 2565 ของ TH ว่าจะเติบโตก้าวกระโดด…หนุนโดยกำไรจาก TAM
ในเบื้องต้น ประเมินจากสมมติฐาน กำไรปกติในการทำธุรกิจสื่อเดิม และแฟคตอริ่งรวมถึงการจำนำสินทรัพย์ที่ค่อนข้างคงที่ เบื้องต้น 35 ล้านบาท และจากธุรกิจใหม่บริหารสินทรัพย์ (TAM) คิดจากรายได้ 250 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 70% และค่าใช้จ่ายในการบริหารและค่าใช้จ่ายอื่นที่ 30%  และใช้สมมติฐานยังไม่มีได้มีการประมูลงานใหม่เข้ามาในปี 2565 ประเมินกำไรไว้ที่ 75 ล้านบาท ทำให้มีการประเมินกำไรทั้งปี 110 ล้านบาท ซึ่งจะโตกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับปี 64

 

ติดตามข่าว หุ้นเด่นระหว่างวัน ผ่านช่องทาง Line OpenChat : https://line.me/ti/g2/wEbsUcMaP2oP45XhK3vYhQ