HoonSmart.com>>จับตาหุ้นขนาดใหญ่ที่มีฟรีโฟลทต่ำ ไล่ราคาสุดโต่ง บล.เอเซีย พลัสเผยเพียง 9 วัน 12 หุ้น ดันดัชนีกระโดดถึง 35.9 จุด แรงส่งต่อตลาดทะยานขึ้น 94.6 จุดหรือ 6.1% DELTA ดุเดือดที่สุด 33% เตือนระวังจบรอบ กลยุทธ์เน้นหุ้นได้ดีทางอ้อม ADVANC จาก INTUCH ส่วน SCC ได้แรงหนุนจาก SCGP คนวงการหุ้นเชียร์ “กัลฟ์ฯ” พอร์ตใหญ่ขึ้น 1,400 ล้านบาท จากราคาอินทัชฯขึ้นทุกๆ 1 บาท ส่วน”ซีพีออลล์” เป๋าตุงจาก MAKRO
บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์ พลังเก็งกำไรหุ้นสภาพคล่องต่ำมีส่วนช่วยหนุนดัชนีหุ้น (SET) เพียง 9 วันทำการ (23 ส.ค. – 2 ก.ย. 2564) ขึ้นมาเร็วมากถึง 94.6 จุด หรือ 6.1% จนสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1643 จุด มาอยู่ที่ 1647.75 จุด (สูงสุดในรอบ 8 เดือน)
หนึ่งในแรงผลักดันที่สำคัญเกิดจากการเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนการถือครองของรายย่อย (ฟรีโฟสท) อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นฝ่ายวิจัยทำการคัดกรองจากหุ้นที่มีโอกาสถูกเก็งกำไร โดยเลือกเฉพาะหุ้นที่มีฟรีโฟสทไม่เกิน 30% และมีมาร์เก็ตแคปมากกว่า 1 แสนล้านบาท ได้ผลลัพธ์ 12 บริษัท ส่งผลให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นถึง 35.9 จุดเพียง 9 วัน ส่วนใหญ่จะปรับตัวได้ดีกว่าตลาด อาทิ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เพิ่มขึ้น 33%, บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) 25%, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) 12%, บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) 9%, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) 6.5% ขณะที่ SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.1%
ทั้งนี้ DELTA มีมาร์เก็ตแคป 9 แสนล้านบาท ราคาเปลี่ยนแปลง 1% มีผลต่อดัชนีถึง 0.8 จุด ขณะที่ GULF มีมาร์เก็ตแคป 4.8 แสนล้านบาทมีผลต่อตลาด 0.4 จุด ส่วน MAKRO,BAY,INTUCH มีมาร์เก็ตแคปกว่า 2 แสนล้านบาทมีผลต่อดัชนี 0.2 จุด
บล.เอเซียพลัสเตือนระวังจบรอบ การเก็งกำไรหุ้นฟรีโฟสทต่ำ กลยุทธ์ แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการเข้ามาเก็งกำไรจากหุ้นสภาพคล่องต่ำน่าจะปลอดภัยมากขึ้น เช่น ADVANC (ได้แรงหนุนจาก INTUCH ขยับขึ้น), SCC (ได้แรงหนุนจาก SCGP ขยับขึ้น)
ส่วนแนวโน้มตลาดทะลุแนวต้าน 1,647.75 จุด เป้าหมายต่อไป 1,655 และ 1,670 จุดตามลำดับ เนื่องจาก Dollar Index อ่อนค่า ช่วยให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดหุ้นแถบเอเชียได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมักจะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Gain) ซึ่งจะจูงใจให้มาลงทุนมากขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม มองว่า Dollar Index อ่อนค่า ในช่วงสั้นๆเท่านั้น ในระยะกลาง-ยาว เฟดจะเดินหน้าทำ QE Tapering (ตามที่ส่งสัญญาณ) ดังนั้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจโดนกดดันต่อ และเงินที่ไหลเข้ามาในภูมิภาคอาจไม่ต่อเนื่องได้ และการเมืองยังเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทย
คนวงการตลาดหุ้นกล่าวว่า นักลงทุนยังคงให้ความสนใจเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ โดยเฉพาะบริษัทที่มีข่าวบวก เพราะสามารถผลักดันราคาขึ้นได้แรง และนักลงทุนพร้อมซื้อตามจำนวนมาก ที่เห็นชัดเจนคือ DELTA ราคากระโดดขึ้นมาเร็วมาก จาก 546 บาท ขึ้นมาปิดที่ 726 บาท หนุนดัชนีขึ้นเฉียด 20 จุด รวมถึงหุ้น INTUCH หลังจาก GULF เข้าไปถือหุ้นใหญ่ 42.25% ราคาหุนปรับตัวขึ้นอย่าวรวดเร็วขึ้นมายืนเหนือ 86 บาท เทียบกับที่ทำเทนเดอร์ รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาสุทธิ 64.826 บาท ซึ่งราคาหุ้น INTUCH ที่ปรับขึ้นทุกๆ 1 บาท เพิ่มมูลค่าหุ้นให้กัลฟ์ ถึง 1,400 ล้านบาท ทั้งนี้ กัลฟ์ฯเข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบันได้กำไรสูงมาก ไม่รวมเงินปันผลอีกประมาณปีละ 1,600 ล้านบาท
เช่นเดียวกับหุ้น MAKRO ตื่นจากหลับ ราคาวิ่งมาจาก 40.50 บาทขึ้นมาปิดที่ 50.50 บาท หลังกลุ่มซีพีประกาศปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งภายในกลุ่ม ให้สยามแม็คโคร เพิ่มทุนแลกหุ้นและขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม เพิ่มสภาพคล่องทำให้มีโอกาสติด SET 50 ส่งผลบวกต่อกลุ่มซีพี โดยเฉพาะบริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่สอง สัดส่วน 38.07% ราคาหุ้น MAKRO ขึ้นทุก 1 ครั้งสร้างกำไรให้ 1,828 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) วิเคราะห์ดีล MAKRO แนะนำ CPALL, CPF แต่ระยะสั้นระวังการเก็งกำไร MAKRO เพราะ Dilution Effect และโลตัสยังขาดทุน สำหรับ U แนะขาย เพราะ JFin Coin และขายสินทรัพย์เข้า REIT ยังไม่เร็ว แนวโน้มตลาดมีแนวต้านถัดไปที่ 1,650-1,660 ลงทุนสั้น- เข้าไว ออกไว เล่นรอบ เพราะคาดว่าจะมีแรงขายสลับออกมา ส่วนลงทุนยาว ช่วงนี้ยัง Let’s Profit Run จากเงินต่างชาติเข้ามาลงทุน
บล.ทิสโก้รายงานว่า ดัชนีปิดระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี วอลุ่มเทรดมากกว่า 1 แสนล้านบาท 4 วันติด อานิสงส์หุ้น DELTA +10% (มีผลต่อ SET +7 จุด) และมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในเครือปตท. หลังราคายังขึ้นช้า กลยุทธ์การลงทุน ลงซื้อ -ขึ้นขาย ส่วนพอร์ตลงทุนเริ่มทยอยแบ่งขายที่ 1,640 ขึ้นไป การเทรดดิ้งระยะสั้นระวังการพักฐาน เน้นตั้งรับ ไม่ไล่ราคา
ติดตามข่าว หุ้นเด่นระหว่างวัน ผ่านช่องทาง Line OpenChat : https://line.me/ti/g2/wEbsUcMaP2oP45XhK3vYhQ