STI ครึ่งปีกำไร 71 ล้านบ. ตุนเมกะโปรเจกต์ พร้อมดัน Backlog ทะลุ 4,100 ลบ.

HoonSmart.com>> สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์  เตรียมเดินหน้าเร่งส่งมอบในช่วงโค้งสุดท้ายของปี แย้ม ประมูลเมกะโปรเจกต์ใหม่ โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดัน Backlog ให้ทะลุ 4,100 ลบ. เป็นจุดแข็งในการสนับสนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ ต่อเนื่องไปอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ ครึ่งปีแรกทำกำไรแล้วที่ 71 ลบ. รายได้ 867 ลบ.

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยว่า แม้ภายใต้วิกฤตบริษัทฯ มุ่งมั่นบริหารจัดการ เพื่อขับเคลื่อนงานโครงการใหญ่ในมือให้เดินหน้าและทยอยส่งมอบตามแผน ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกยังคงความแข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไร โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีจุดเด่นจากงานในมือที่อยู่ในระดับสูงกว่า 4,100 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐบาลสัดส่วนราว 74% และเอกชนสัดส่วน 26% ทำให้มีความมั่นคงในการทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเดินหน้าประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐบาลและเอกชน ที่จะเริ่มฟื้นตัวจากการเร่งลงทุนหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มในสถานการณ์โควิด และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี โดยคาดว่าด้วยศักยภาพและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม จะสนับสนุนให้กลุ่ม STI มีโอกาสได้รับงานเพิ่มขึ้น

ขณะที่ บริษัท เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) บริษัทในกลุ่ม เข้ามาสนับสนุนโอกาสในการเข้าประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานที่ AEC เชี่ยวชาญ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญานการประมูลงานเมกะโปรเจกต์เหล่านี้เป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสให้กลุ่มบริษัทเข้าไปมีส่วนร่วมในความสำเร็จของโครงการเหล่านี้

“ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง นับเป็นหนึ่งในแผนเร่งด่วนของภาครัฐที่มีโครงการบิ๊กโปรเจกต์ออกมาหลากหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จึงมองว่า ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีการประมูลงานใหม่ๆ ทยอยออกมาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีงานโครงการที่กระจายอยู่ในหลายภูมิภาคของประเทศไทย รวมทั้ง การเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสนับสนุนแผนการก่อสร้างให้เป็นไปตามกำหนด ตลอดจน การดูแลสวัสดิภาพของพนักงานในองค์กร เพื่อสร้างความปลอดภัยและความพร้อมในการทำงานที่จะเร่งฟื้นตัวต่อไปในอนาคต” นายสมเกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2564 ภายใต้วิกฤตโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น กลุ่มบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การบริหารงาน การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ โดยมีรายได้จากการให้บริการ 867 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างเติบโตขึ้น แม้สถานการณ์โควิดส่งผลให้การส่งมอบในบางโครงการชะลอจากแผน ประกอบกับ กลุ่มบริษัทได้รับงานใหม่ในโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ ที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร, ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่, สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ของ ธนาคาร ยูโอบี (ไทย), โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ มาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ และในอีกหลายโครงการ รวมถึง การส่งมอบงานในมือได้ต่อเนื่อง