EPG เผย Q3/64 พร้อมโตหลังคลายล็อกดาวน์-มาตรการสนับสนุนของรัฐบาลหลายประเทศ

HoonSmart.com>>อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป ตั้งเป้ายอดขายโตได้ถึง 11,000 ล้านบาทในไตรมาสต่อไป ในปีบัญชี 64/65 จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังการเร่งฉีดวัคซีน และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล Q1 ปีบัญชี 64/65 มีรายได้จากการขาย 2,934 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 503% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG)  เปิดเผยว่าตามที่ IMF ได้คาดการณ์ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 64 ที่ 6.0% และ ปี 65 ที่ 4.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังการเร่งฉีดวัคซีน สำหรับเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกสาม ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนลดลง

ทั้งนี้จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ไตรมาสต่อไป ในปีบัญชี 64/65 (เม.ย.64 – มี.ค.65) บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตได้ถึง 11,000 ล้านบาท สูงกว่ายอดขายก่อนเกิดการระบาดของ Covid-19 และปรับระดับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นที่ 29 – 32% ทั้งนี้ EPG มีสัดส่วนรายได้จากการขายของธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ กว่า 70% มาจากต่างประเทศ และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกมีรายได้จากการขายในประเทศ 95% สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานใน 3 กลุ่มธุรกิจ มีดังนี้

ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ตั้งเป้าทำการตลาดสำหรับสินค้าพรีเมี่ยมเป็นหลักทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับฐานการผลิตโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐอเมริกา จะนำเครื่องจักรระบบอัตโนมัติความเร็วสูงมาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่วนตลาดยุโรปปรับตัวดีขึ้น ตลาดญี่ปุ่นทยอยฟื้นตัว ส่วนตลาดในประเทศชะลอตัวช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.64 หากมีการคลายล็อคดาวน์ น่าจะทยอยฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม ฉนวน AEROFLEX จัดเป็นสินค้าจำเป็นที่ใช้ในระบบปรับอากาศ อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง อุตสาหกรรมยา และ คลีนรูม เป็นต้น จึงทำให้ AEROFLEX สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้ดี
ส่วนธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS ยอดขายมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะซึ่งใช้งานอเนกประสงค์

สำหรับธุรกิจในออสเตรเลีย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นและความต้องการยานยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle และ SUV ปรับสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้การแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ในออสเตรเลีย ส่งผลให้มีการล็อคดาวน์ในบางรัฐ เช่น นิวเซาท์เวลส์ และวิคตอเรีย ส่งผลกระทบกับร้านค้า TJM บางส่วน

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกสาม ส่งผลต่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศลดลง กดดันยอดขายของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด สามารถชดเชยยอดขายด้วยบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่ (New Normal) ที่นิยมสั่งอาหารแบบจัดส่งถึงที่ (Delivery) หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ปีบัญชี 64/65 (เม.ย.64 – มิ.ย.64) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,934 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติยอดขายสูงสุดรายไตรมาส โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของ ปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 1,952 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 33% และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ของกำไรสุทธิรายไตรมาสที่ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 503% รศ.ดร.เฉลียว กล่าว