HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 242 จุด หลังถ้อยแถลง “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด ยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย แม้ลดวงเงินซื้อพันธบัตรในปีนี้ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อ 2%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ปิดที่ 35,455.80 จุด เพิ่มขึ้น 242.68 จุด หรือ 0.69% หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง (เฟด) มีถ้อยแถลงว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่เฟดจะเริ่มลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรลงในปีนี้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีการปรับดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,509.37 จุด เพิ่มขึ้น 39.37 จุด, +0.88%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่15,129.50 จุด เพิ่มขึ้น 183.69 จุด, +1.23%
ในสัปดาห์นี้ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 0.9% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.5% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.8%
นายพาวเวลล์กล่าวเปิดการประชุมประจำปีของเฟดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันที่ 27 สิงหาคมว่า “เวลาและจังหวะของการลดการซื้อสินทรัพย์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นไม่ได้มุ่งหมายที่จะส่งสัญญานโดยตรงเกี่ยวกับระยะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเฟดได้ทำการทดสอบที่ต่างออกไปและเข้มงวดมากขึ้น”
นายพาวเวลล์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อใกล้เคียงกับอัตราเป้าหมาย 2% ของเฟด ซึ่งเป็นหนึ่งในสองเป้าหมายหลัก และยังมีอีกหลายสิ่งต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายอื่นของการจ้างงานสูงสุดแม้มีความคืบหน้าที่ชัดเจน ที่จะเข้าสู่เป้าหมาย
ทั้งนี้เฟดได้ใช้คำว่า ความก้าวหน้าที่สำคัญยิ่ง เป็นเกณฑ์ของเวลาที่จะเมปรับนโยบายการงินให้เข้มงวด
นอกจากนี้จากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดรายอื่นๆ การลดวงเงินซื้อพันธบัตรจะเริ่มขึ้นเร็วที่สุดคือช่วงการประชุมของฟเดในวันที่ 21-22 กันยายน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงมาที่ 1.305% หลังจากนายพาวเวลล์มีถ้อยแถลง
การตอบสนองของตลาดสะท้อนว่า เฟดประสบความสำเร็จในการเตรียมความพร้อมให้กับนักลงทุนรับรู้ถึงการซื้อพันธบัตรที่ปัจจุบันการตั้งวงเงินไว้ที่ 120 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน และอาจเลี่ยงการเกิด taper tantrum หรือเหตุการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและส่งผลกระทบตลาดเงินตลาดทุนเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปลายปี 2013
นักวิเคราะห์จาก State Street Global Advisors ระบุว่า ตลาดคลายวิตกที่เฟดไม่ได้มีแผนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อัตราดอกเบี้ยยังอยู่อีกไกลมาก และนักลงทุนพอใจ ซึ่งต้องให้เครดิตนายพาวเวลล์ ในการสื่อสารเตรียมการลดซื้อพันธบัตรและเลี่ยงเหตุการณ์ taper tantrum PDR
ด้านนักวิเคราะห์จาก Vital Knowledge ระบุว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ยังส่งสัญญานว่าเฟดไม่ได้วิตกต่อเงินเฟ้อ และกำลังบอกตลาดว่าเกณฑ์ของการปรับอัตราดอกเบี้ยนั้นสูงกว่าการลดซื้อพันธบัตร
นักวิเคราะห์จาก Cornerstone Wealth ระบุว่า นายพาวเวลล์ยังคงมุมมองที่ว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นภาวะชั่วคราว แม้กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2008 จากที่เพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.4%
ดัชนี PCE) พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1991 จากที่เพิ่มขึ้น 3.6% เดือนมิถุนายน เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3%จากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก่อน
การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 1.1%
นักวิเคราะห์จาก Cornerstone Wealth ยังกล่าวอีกว่า “เราเชื่อว่าเมื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของไวรัสเดลตา เดือนกันยายนจะมีข้อมูลตลาดแรงงานที่ชัดเจนและเป็นการกำหนดเวลาสำหรับการประกาศลดซื้อพันธบัตรอย่างเป็นทางการในการประชุมของเฟดเดือนกันยายน
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นออกซิเดนทอล ปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 6.9% หุ้นไซมาเร็กซ์ เอ็นเนอร์จี้เพิ่มขึ้น 6.5%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มเหมืองแร่ที่เพิ่มขึ้น 2% แต่กลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 0.4% จากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่บ่งชี้ความเป็นไปได้ที่จะเริ่มลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรลงในปีนี้
นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ในอัฟกานิสถานจากเหตุการณ์ระเบิดนอกสนามบินกรุงคาบูลเมื่อวันก่อน
ในฝรั่งเศส ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนสิงหาคมลดลงมาที่ 99 จาก 100 ในเดือนก่อนหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 472.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, +0.43%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,148.01 จุด เพิ่มขึ้น 23.03 จุด, +0.32%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,681.92 จุด เพิ่มขึ้น 15.89 จุด,+0.24%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,851.75 จุด เพิ่มขึ้น 58.13 จุด, +0.37%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล