ดาวโจนส์ปิดลบ 192 จุด จับตาเฟดประชุมประจำปี

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงทั้ง 3 ตลาด   จับตาเฟดประชุมประจำปี 26-28 ส.ค. เปิดรายละเอียดแผนการลดซื้อพันธบัตร  กลุ่มพลังงานลงมากสุด ราคาน้ำมันดิบลดลง 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์  วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ปิดที่ 35,213.12 จุด ลดลง 192.38 จุด หรือ 0.54% ขณะที่นักลงทุนรอรายละเอียดเกี่ยวกับการลดซื้อพันธบัตรจากการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 26-28 สิงหาคม

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,470.00 จุด ลดลง 26.19 จุด, -0.58%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,945.81 จุด ลดลง 96.05 จุด, -0.64%

นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ในอัฟกานิสถานจากเหตุการณ์ระเบิดนอกสนามบินกรุงคาบูลเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงกลาโหมรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 15 รายและเสียชีวิต 12 ราย

กลุ่มพลังงานร่วงลงมากสุด โดยหุ้นไดมอนด์แบคเอ็นเนอร์จี้และหุ้นออกซิเดนทอลปิโตรเลียมต่างลดลง 2.5% หุ้นฮัลลิเบอร์ตันลดลง 1.9% ส่วนกลุ่มเรือสำราญ ทั้งหุ้นโรยัลคาริบเบียนลดลง 3.1% หุ้นคาร์นิวาลลดลง 2.6% หุ้นนอร์วีเจียนลดลง 2.7%

ข้อมูลตลาดแรงงาน ยังมีผลต่อตลาด โดยกระทรวงแรงงานรายงานการยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมาที่ 353,000 ราย สูงกว่า 349,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า

กระทรวงพาณิชย์รายงานประมาณการเศรษฐกิจไตรมาสสองครั้งที่สองขยายตัว 6.6% และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 6.5% ที่รายงานครั้งก่อน แต่ต่ำกว่า 6.7% ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นบีซี ว่า จากการที่เศรษฐกิจมีความคืบหน้า การปรับลดการซื้อพันฐบัตรจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ไม่ได้ระบุว่าควรจะเริ่มเมื่อไร

“เมื่อดูจากข้อมูลการจ้างงานเดือนก่อน และดูเงินเฟ้อล่าสุด ก็คิดว่าระดับการอัดฉีดที่เฟดทำขณะนี้อาจจะไม่จำเป็นภายใต้สถานการณ์นี้ จึงพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับลดซื้อพันธบัตรตอนนี้ดีกว่าจะทำทีหลัง”

ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรปรับลดวงเงิน QE โดยเร็ว และปิดโครงการในสิ้นเดือนมีนาคม เพื่อป้องกันเศรษฐกิจไม่โอเวอร์ฮีท

ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสเชื่อว่า เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นในขณะนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในเดือนตุลาคมนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมา 1.375% หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดออกมาให้ความเห็นก่อนที่อ่อนตัวลงมาที่ 1.344% ในช่วงบ่าย

นักวิเคราะห์จาก Leuthold Group ระบุว่า การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและแตะระดับสูง เป็นการส่งสัญญาณว่าการระบาดของไวรัสเดลตาแตะระดับสูงสุดแล้วและจะช่วยทำให้ความเชื่อมั่นมีมากขึ้น มีการเปิดเศรษฐกิจ และผลักดันกระแสลงทุนในหุ้น small caps และกลุ่มวัฏจัก

นอกจากนี้นักลงทุนรอการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของเฟดที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อดูว่าจะมีความเห็นเกี่ยวกับการลดซื้อพันธบัตรหรือกรอบเวลาปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่ลดลง 1.8% แต่กลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 1.5% นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้และเสร็จสิ้นในวัน 28 สิงหาคมโดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดการประชุม

นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางสหภาพยุโรป กล่าวว่า ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสเดลตาต่อเศรษฐกิจยูโรโซนมีจำกัด และเศรษฐกิจยังคงขยายตัวไปจนตลอดปี 2022

ในเยอรมนี GfK รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนลดลงมาที่-1.2 จุด จาก -0.4 ในเดือนก่อนและลดลงมากกว่า -0.7 ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในฝรั่งเศสเดือนสิงหาคมค่อนข้างทรงตัวที่ 110 จาก 113 ในเดือนก่อนหน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 470.34 จุด ลดลง 1.50 จุด หรือ -0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,124.98 จุด ลดลง 25.14 จุด หรือ -0.35%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,666.03 จุด ลดลง 10.45 จุด หรือ -0.16%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,793.62 จุด ลดลง 67.04 จุด หรือ -0.42%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 67.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 71.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล