SYNEX มั่นใจไฮซีชั่นหนุนครึ่งปีหลังบอร์ดไฟเขียวปันผล 0.18 บาท

HoonSmart.com>>ซินเน็คฯ รับดีมานด์ไอทีทะลัก หนุนครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรกรับไฮซีซั่น เตรียมต่อยอดธุรกิจ ผ่าน “ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น” ล่าสุด จับมือพันธมิตรรุกแพลตฟอร์มไอทีมือสอง แย้มยังมีดีลใหม่รอเปิดตัวเร็วๆ นี้ ขณะที่บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.18 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 3 กันยายน 2564

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) มองภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เพื่อรองรับ 5G Wifi 6 และ Cloud Service รวมทั้ง ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเป็นช่วงทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม 5G กระตุ้นความต้องการผู้บริโภค และเป็นกลุ่มที่มีราคาสูง ทั้งนี้ หากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง จะยิ่งกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดคึกคักกว่าครึ่งปีแรกได้ โดยซินเน็คฯ ยังมุ่งมั่นรักษาความสามารถในการทำกำไรจากช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ 4.8% โตกว่าเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่วางไว้จะโตกว่าปีก่อน

พร้อมทั้ง วางกลยุทธ์การเพิ่มพอร์ตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง จากปัจจุบันบริษัทฯ มีแบรนด์ที่บริหารมากกว่า 60 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ สินค้ากลุ่มเกมมิ่ง กลุ่มสุขภาพ หรือ Smart Health ที่คาดจะเห็นการจับมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตมากขึ้น รวมทั้ง สินค้ากลุ่ม IoT อุปกรณ์ไอทีและเครื่องใช้ต่างๆ และกลุ่มซีเคียวริตี้ ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ที่จะลงทุนและขยายระบบไอที เพื่อรับมือวิถีองค์กรนิวนอร์มอล

นอกจากนี้ ซินเน็คฯ มีแผนเปิดตัว House Brand ในสินค้า 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มโทรศัพท์มือถือและแอคเซสเซอรี่ กลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับกลุ่มเกมมิ่ง และอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับคอมพิวเตอร์ คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงต่อจากนี้

สำหรับ บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น (Synnex Incubation) ที่ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ บริษัท สวอป มาร์ท (SWOPMART) คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ โดยสัดส่วนการถือหุ้น ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น 60% และพันธมิตร 40% และเตรียมเผยแผนต่อยอดธุรกิจร่วมกับพันธมิตรรายอื่น คาดจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้ซินเน็คฯ มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2564 เป็นจำนวน 0.18 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 กันยายน 2564 นี้