HoonSmart.com>>กสิกรไทย ห่วงเศรษฐกิจไทย ประเมินปีนี้หดตัว 0.5% ติดลบ 2 ปีติด เผชิญภาวะขาดดุลแฝดทั้ง”งบประมาณ-ดุลบัญชีเดินสะพัด” คาดสิ้นปีเงินบาทแตะ 32.75 บาทต่อดอลลาร์
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่าศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เป็นหดตัว 0.5% จากเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 64 ที่คาดขยายตัว 1% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นที่ 2 ติดต่อกัน โดยในปี 2563 เศรษฐกิจไทยหดตัว 6.1%
สาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอลง มาจากการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง และยาวนาน และการล็อคดาวน์ 29 จังหวัด พื้นที่สีแดง ซึ่งมีผลต่อจีดีพีสูงถึง 78% ทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนชะลอตัวลง รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ที่ลดเหลือเพียง 2 แสนคน จากเดิมที่คาด 250,000 – 650,000 คน แม้การส่งออกจะขยายตัวได้ดี โดยปีนี้คาดโต 12.4% การนำเข้าขยายตัว 23.0%
สำหรับค่าเงินบาทธนาคารคาดว่าปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00 – 33.50 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ และสิ้นปีอยู่ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งยังอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่า จาก
1.การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่ปีนี้น่าจะแตะที่ 11,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดดุล 7,000 ล้านดอลลาร์
2.ค่าขนส่งสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น
3.การโอนเงินปันผลของบริษัทต่างชาติในประเทศ กลับไปยังบริษัทแม่
4.ทิศทางดอกเบี้ย กนง. หลังเริ่มไม่ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งล่าสุด
“เงินบาทในช่วง 2-3 วันนี้ ถือว่ามีความผันผวนมาก โดยธนาคารคาดว่าสิ้นปีนี้จะแตะที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ทำให้ไทยมีฐานะขาดดุลแฝด โดยขาดดุลทั้งงบประมาณรายจ่ายและดุลบัญชีเดินสะพัด รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต่ำกว่าคาดการณ์จากการระบาดของโควิด”