NSL ชูกลยุทธ์โต เพิ่มสินค้า-ช่องทางขาย รุกตปท.

HoonSmart.com>> “เอ็นแอสแอล ฟู้ดส์” ตั้งเป้ายอดขายปี 64 แตะระดับ 3.4 พันล้านบาท  ลุ้นไตรมาส 4 โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ดันยอดขายโตเกินเป้า เตรียมนำสินค้าไปขายที่กัมพูชาตามการลงทุนของ 7-11   ขายผ่านเทสโก้โลตัส ออกสินค้าใหม่ โรงงานใหม่ คาดเริ่มผลิตปี 66 ด้านผลงาน 6 เดือนแรก โชว์กำไรโต 98% ตั้งเป้า GPM ที่ 18.9%  

นายสมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นแอสแอล ฟู้ดส์ (NSL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ยังเติบโตตามแผน ถึงแม้ว่าในไตรมาส 3 จะมีผลกระทบจากการล็อกดาวน์บ้าง แต่ยังสามารถสร้างยอดขายได้ตามแผน คาดว่าในไตรมาส 4 ถ้าสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ อาจจะเป็นปัจจัยบวกให้ยอดขายเติบโตมากกว่าเป้าหมาย

ในปี 2564 บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายอยู่เกือบ 3,000 ล้านบาท การเติบโตส่วนใหญ่มาจากสินค้าในกลุ่มเบเกอรี่และรองท้อง ที่จำหน่ายภายในร้าน 7-11 เติบโตประมาณ 7-8% โดยในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายอยู่ที่ 1,462.4 ล้านบาท สัดส่วน 93.5% ของรายได้รวม ซึ่งบริษัทฯมีแผนจะออกสินค้าใหม่ในกลุ่มดังกล่าวทุกเดือน ส่วนสินค้าในกลุ่ม Food Service และสินค้าภายในแบรนด์ของบริษัท ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

ด้านผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,563.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,423.5 ล้านบาท โดยบริษัทได้ลดต้นทุนในทุกภาคส่วน ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.9% จากปีก่อนอยู่ที่ 15.2% ซึ่งบริษัทตั้งเป้าที่จะควบคุมให้อยู่ในระดับปัจจุบัน ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 98.3% มาอยู่ที่ 123 ล้านบาท

ส่วนกลยุทธ์ของบริษัท มีแนวทางที่จะเติบโตควบคู่กับช่องทางขายของ 7-11 โดยในอนาคตบริษัทมีแผนจะส่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าแซนวิช และเบอร์เกอร์ ไปจำหน่ายที่ประเทศกัมพูชาตามแผนการขยายสาขาของ 7-11 นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ และเพิ่มช่องทางการขายให้ยอดขายมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยได้มีการพูดคุยกับทางเทสโก้โลตัส เพื่อนำสินค้าแบรนด์ของบริษัทเข้าวางจำหน่ายด้วย

สำหรับโครงการอนาคต บริษัทมีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ในการสร้างโรงงานใหม่ เพื่อใช้ในการผลิตอาหารพร้อมทานแบบแช่เย็น และไม่แช่เย็น รวมถึงอาหารกึ่งพร้อมทาน มูลค่าการลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท (ก่อสร้างอาคาร 240 ล้านาบาท และลงทุนเครื่องจักร 110 ล้านบาท) คาดว่าเริ่มก่อสร้างในช่วงปี 2565 และเริ่มผลิตได้ในช่วงปี 2566 ส่วนเงินจากการระดมทุนในปัจจุบันเหลืออยู่ที่ 100 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติม สำหรับความร่วมมือกับ 3 หน่วยงาน ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการพัฒนานวัตกรรม ที่เข้ามาต่อยอดนวัตกรรมอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์จากพืช (Plant-Based Food) และผลิตภัณฑ์กัญชง อยู่อย่างต่อเนื่อง รอดูความเหมาะสมของข้อกฏหมาย และช่วงเวลา คาดว่าจะเป็นปี 2565 จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

ด้านราคาหุ้น NSL  ซื้อขายที่ 20.90 บาท +2.90  บาทหรือ 16.11% ณ เวลา 16.14 น. ของวันที่ 28 ส.ค. 2564